เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 14.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวน สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต, พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สว.สส.สภ.วิชิต, ร.ต.อ.กิติศักดิ์ ช่วยแก้ว, ร.ต.อ.พิเชษฐ์ กัลชาญวรรณธนะ ร่วมกันจับกุม. นาย มาว วิน (สัญชาติพม่า) อายุ 41 ปี ที่อยู่ตามบัตร 70/2 ม.4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต
พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย
สะพานเหล็ก 1 ชุด
2. สมอเรือ 1 อัน
3.ตู้ ไฟ 1 ชุด
4. ถังสแตนเลส ขนาด 6,000 ลิตร 1 ถัง
5. เศษเหล็ก น้ำหนักประมาณ 10 ตัน
6. เงินสด 40,000 บาท
7. สร้อยคอทองคำ 1 เส้น
8. กระเป๋าสะพายสีดำ
9. ถังลม 1 ถัง
10. เครื่องปั๊มลม 1 เครื่อง
11. ตู้ทำน้ำเย็น 1 ตู้
ในฐานความผิด “ลักทรัพย์นายจ้าง” สถานที่เกิดเหตุ ร้านนาคารีไซเคิล ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ม.4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายในการก่อเหตุครั้งนี้ พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต ว่า ในช่วงเกิดเหตุร้านนาคารีไซเคิลปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และได้ว่าจ้างผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าให้ดูแลโกดังเก็บของเก่า ในระหว่างการปิดกิจการชั่วคราว สำหรับระยะเวลาของการก่อเหตุนั้นไม่แน่ชัด ทราบเพียงว่านาย มาว วิน ได้ลักลอบขายสินค้าของทางร้านล็อตใหญ่เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา
“ผู้ก่อเหตุเป็นลูกจ้างที่รับหน้าที่ดูแลโกดังในระหว่างที่มีการปิดกิจการชั่วคราว โดยได้ทำการลักลอบขายสินค้าให้กับผู้รับซื้อของเก่า ซึ่งผู้รับซื้อก็คุ้นหน้าคุ้นตากับผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี และไม่ทราบว่านายจ้างไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการขายสินค้าภายในโกดัง” พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ กล่าว
“ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าของร้านได้สังเกตเห็นความผิดปกติ จากภาพถ่ายของภายในโกดังที่ถ่ายโดยแม่บ้านผู้ดูแล เหมือนกับมีของหายไปจากโกดัง กระทั่งวันที่ 16 มี.ค. ทางเจ้าของร้านก็ได้เข้ามาดู และพบว่าของภายในโกดังสูญหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมมูลค่าแล้วประมาณแสนกว่าบาท คาดว่าผู้ก่อเหตุลักลอบขายสินค้าล็อตใหญ่และเตรียมตัวหนี แต่มาถูกจับได้เสียก่อน”
ส่วนเงินที่ได้จากผู้ซื้อของเก่านั้น พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ เผยว่า นายมาว วินได้นำไปซื้อทองและเลี้ยงสุราเพื่อน ๆ โดยเหลือเงินสดจากการลักลอบขายของ 4 หมื่นบาท ส่วนของกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามกลับมาจากร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ได้ ตามที่ระบุเป็นของกลางในคดี
