ชาวบ้าน บ.ใสยวน ต.ราไวย์ร้องเอกชนออกเอกสารสิทธิ์ทับถนนสาธารณะที่ใช้ร่วมกันหลายปี หวั่นถูกปิดถาวร กระทบวิถีชีวิต

ภูเก็ต - วันที่ 14 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากชาวบ้านใสยวน หมู่ที่ 7 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ขอให้ช่วยนำเสนอและตรวจสอบกรณีเอกชน มีการออกเอกสารสิทธิ์ทับทางสาธารณะซึ่งชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันมานานหลายสิบปี บริเวณปากซอยใสยวน 2 (ซอยแมงโก้สทีน) ม.7 ต.ราไวย์ และเริ่มนำเสารั้วมาปิดกั้นแสดงความเป็นเจ้าของ คล้ายจะมีการปิดไม่ให้รถผ่านโดยปัญหาดังกล่าว เคยมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ตั้งแต่ปี 2554 จำนวน 1 ครั้ง และปี 2560 จำนวน 1 ครั้ง เพื่อขอให้ตรวจสอบเพราะเป็นทางทางสาธารณะที่ใช้กันมาหลายปี แต่หลังจากร้องเรียนไปยังไม่มีความชัดเจน เกรงว่าเอกชนรายดังกล่าวจะปิดเส้นทางที่ใช้สัญจร ทำให้ต้องไปใช้เส้นทางอื่นได้รับความลำบาก

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 15 สิงหาคม 2560, เวลา 11:27 น.

ผู้ร้องรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนามระบุว่าพื้นที่ถนนเส้นดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนใสยวนและถนนวิเศษ 40 ปีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งตั้งแต่อดีตชาวบ้านใสยวนม.7 ใช้เดินทางไปทะเลไปสุสาน (กูโบร์) และออกไปทำงานยังพื้นที่หาดราไวย์ทางฝั่งถนนวิเศษตรงหน้าโรงแรมวิจิตรรีสอร์ท ซึ่งถนนเส้นดังกล่าว (ซอยใสยวน 2 หรือซอยแมงโก้สทีน) ได้อยู่ในแปลงจัดสรรที่ดินโครงการพิทักษ์ธรรมที่มีเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้ครอบครอง

โดยโครงการดังกล่าวมีการจัดสรรและแบ่งขายให้ชาวบ้านในปี 2523 ซึ่งขณะขายให้นั้นยังมีถนนเส้นทางสาธารณะคั่นกลางเชื่อมทั้งสองฝั่งถนนสร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้ซื้อ แต่หลังจากที่มีการโอนให้ผู้ซื้อเสร็จในปี 2524 จึงมีการแบ่งแยกโฉนดเพิ่มจุดต้นซอยฝั่งถนนใสยวนเนื้อที่ประมาณ 3 งานเศษซึ่งไม่มีใครทราบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ทับถนนเพราะเชื่อว่าเป็นทางสาธารณะมาโดยตลอด ก่อนจะทราบว่าโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวถูกขายเปลี่ยนมือในปี 2550

ต่อมาในปี 2554 ผู้ซื้อรายใหม่ได้เข้ามาแสดงสิทธิ์และปิดกั้นเส้นทาง โดยการนำรถบรรทุกก้อนหินมาเทกองปิดกั้นในยามวิกาลซึ่งเมื่อชาวบ้านมาพบเห็นก็ช่วยกันนำหินออกเนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ก่อนจะเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.ฉลอง ชาวบ้านจึงรวบรวมหลักฐานทั้งบันทึกแจ้งความและภาพถ่ายทำเป็นหนังสือร้องเรียนเข้ายื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองภูเก็ตเมื่อปี 2554 แต่เรื่องก็เงียบหาย

กระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาฝ่ายผู้อ้างสิทธ์เริ่มมาดำเนินการวางเสาปิดกั้นบางจุดอีกครั้งรวมถึงมีการฟ้องร้องเทศบาลตำบลราไวย์ที่เข้ามาทำการปักป้ายชื่อซอยตามงบประมาณปรับปรุงถนนจนเทศบาลตำบลราไวย์ต้องถอดป้ายซอยออกและแก้ปัญหาชั่วคราวด้วยการทำถนนขนาดความกว้าง 4 เมตรให้รถเบี่ยงไปทางซ้ายหลบจุดพิพาท

จากนั้นชาวบ้านและผู้นำศาสนาเกรงว่าถนนจะถูกปิดโดยถาวร จึงทำหนังสือเข้าร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา และทางจังหวัดโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตอบกลับผลการดำเนินการมาแล้ว ซึ่งระบุใจความว่า “พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเอกสารสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 85153 และ 85154 ซึ่งแบ่งแยกมาจากโฉนดเลขที่ 28569 ซึ่งออกเมื่อปี 2524 และหากมีข้อสงสัยให้ถามที่ดินจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมอำเภออีกครั้งหนึ่ง” ซึ่งสร้างความงุนงงให้แก่ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางว่าเหตุใดจึงไม่มีการนำสืบที่มาของถนนเส้นนี้อย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตามผู้ให้ข้อมูลกล่าวเพิ่มเติมว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการดำเนินการตรวจสอบหรือนำสืบที่มาถนนจุดดังกล่าวให้แน่ชัด เพราะเป็นที่คาใจของชาวบ้านก็อาจจะไม่เป็นผลดีทั้งสองฝ่ายปัญหาก็จะคาราคาซัง และอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นตัวประสานแก้ไขปัญหาและฝากถึงผู้อ้างกรรมสิทธิ์ว่า ขอความเห็นใจคืนถนนให้เป็นสาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ประโยชนต่อไป เนื่องจากเป็นเส้นทางเส้นสำคัญที่ใช้สัญจรกันมานาน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่