เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (5 ก.ค.) ชาวบ้านบ้านท่าสัก ต.ป่าคลอก อ.ถลางประมาณ 50 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณประตูทางเข้าออก 2 ด้านของที่ว่าการอำเภอถลาง เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนชุดที่เข้าทำการตรวจยาเสพติดในหมู่บ้าน ออกมาแสดงความรับผิดชอบกรณี เมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกันได้เข้าทำการตั้งด่านตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดกลุ่มวัยรุ่นและได้มีการควบคุมตัวชาย 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอัษฎาวุธ หรือดีม อังครา อายุ 20 ปี และนายสมศักดิ์ อังครา อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อลูกกันและเป็นคนในพื้นที่บ้านป่าคลอก มายังที่ว่าการอำเภอถลาง โดยเป็นการใช้กำลังจนเกินกว่าเหตุกับบุคคลที่ร่างกายไม่สมบูรณ์
หนึ่งในกลุ่มผู้ที่มารวมตัว (เจ้าตัวขอสงวนนาม) ซึ่งเป็นญาติของผู้ถูกควบคุมตัวทั้งสอง เล่าให้ผู้สื่อข่าว ข่าวภูเก็ต ฟังว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนเข้าตั้งด่านตรวจปัสสาวะ นายอัษฎาวุธ (ที่ญาติคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นผู้มีสติไม่สมประกอบ) ได้ขับรถผ่านมาจึงเรียกตรวจปัสสาวะ โดยผลการตรวจเป็นสีม่วงมีสารเสพติด จึงทำการสอบสวนก่อนจะบังคับตัวพาไปค้นภายในบ้านพัก และอ้างว่าพบยาเสพติดเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้มีนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นพ่อของนายดีม รับว่าเป็นเจ้าของบ้านและเป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งสองไปทำบันทึกประวัติที่อำเภอถลาง ก่อนส่งเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการ
ทั้งนี้ผู้เล่าเหตุการณ์ระบุว่า ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะพาตัวที่พาตัวนายดีมและนายสมศักดิ์ไป มีชาวบ้านหลายคนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ได้มีการทำร้ายร่างกายทั้งสองจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นและคนในหมู่บ้านที่ทราบข่าวเกิดความไม่พอใจ จึงรวมตัวปิดล้อมเจ้าหน้าที่ขณะที่กำลังเดินทางกลับ และมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวพร้อมสองพ่อลูกจะเดินทางกลับมาที่ว่าการอำเภอถลาง ชาวบ้านจึงเดินทางมารวมตัวอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ และขอให้ปล่อยตัว
ทั้งนี้ หลังมีการรวมตัวกันที่หน้า อ.ถลาง ผู้รวมตัวได้มีการตะโกนด่าทอ เป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนที่อยู่ภายในได้มีการเพิ่มกำลังสนับสนุน ทั้งขอความช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนเมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนสภ.ถลาง มาร่วมดูแลความสงบ ก่อนที่ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง จะเข้าพูดคุยเจรจาก่อนทั้งหมด แยกย้ายกลับ โดยทางผู้รวมตัวระบุว่าจะได้เตรียมนำหลักฐานซึ่งเป็นวิดิโอคลิปขณะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนทำร้ายร่างกาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหากระทำเกินกว่าเหตุในวันนี้ (6 ก.ค.)
ขณะเดียวกัน วันนี้ได้มีส่งต่อข้อความจากอำเภอถลาง ชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เผยแพร่ในไลน์กลุ่มต่างๆ ระบุว่า จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น.วันที่ 5 ก.ค. 60 เวลาพนักงานฝ่ายปกครอง อ.ถลาง ได้ร่วมกันตั้งจุดสกัดที่ถนนทางเข้าบ้านท่าสัก ม.4 ต.ป่าคลอก เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและค้นหาผู้เสพเข้าบำบัด และได้ตรวจปัสสาวะนายอัษฎาวุธ หลังจากนั้น จนท.ได้สอบสวนพบว่าเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่ามีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขายยาเสพติด จึงเชื่อว่าน่าจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่บ้านนายอัษฎาวุธฯ อีก จึงใช้อำนาจ เจ้าพนักงาน ปปส. ได้เข้าทำการขยายผลตรวจค้นบ้าน พบยาบ้า 1 เม็ด และอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง โดยนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน รับว่าเป็นของตนเอง
จนท. จึงนำตัวมาดำเนินการบำบัด เนื่องจากผู้ต้องสงสัยสมัครใจเข้าบำบัด แต่ระหว่าง จนท.เดินทางกลับได้มี ญาติพี่น้องของ นายอัษฎาวุธ และนายสมศักดิ์ ได้มาปิดถนนขวาง รถจนท. ออกจากพื้นที่ โดยเอาวัตถุต่างๆ มาขวางถนนเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และนำก้อนหินมาขว้างปารถยนต์ จนท.และปาก้อนหินใส่ จนท ทำให้ อส. นิยม เนื่องอุบล ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ขณะนี้นำส่ง รพ เพื่อรักษาพยาบาลแล้ว อนึ่ง ผู้ที่ถูกตรวจปัสสาวะเป็นผลบวก ที่ถนนทางเข้าบ้านท่าสัก ม.4 ต.ปาคลอก อ.ถลาง มีจำนวน 18 คน
ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยังแหล่งข่าวรายเดิม ซึ่งระบุว่าทางด้านญาติๆของผู้ถูกคุมตัวยังไม่ได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชุดปราบยาฯ อ.ถลาง แต่อย่างใด เนื่องจากยังรอความเห็นจากญาติๆ และไม่ขอแสดงความเห็นใดๆต่อ เนื่องจากทราบว่าทำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขัดขวางการทำหน้าที่ และผู้ที่มีการนำข้อมูลออกเผยแพร่ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในส่วนของผู้ถูกควบคุมตัวทั้งสองนั้นทราบว่าล่าสุดถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดร่วมกับผู้ถูกควบคุมตัวรายอื่นแล้ว