สำหรับหลวงพ่อบุญมา เป็นอดีตเจ้าอาวาสที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายภายในจังหวัดภูเก็ตให้ความเคารพนับถือ หลังจากท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2543 สรีระของท่านนั้นไม่มีการเน่าสลาย ทางวัดจึงมีมติให้เก็บรักษาร่างหลวงพ่อไว้ในหีบกระจก เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้ เมื่อถึงเวลาที่สมควรจึงได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพถวายหลวงพ่อบุญมาในครั้งนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.67 เมื่อเวลา 19.00 น. บริเวณหน้าเมรุวัดอนุภาษกฤษฎาราม (วัดเก็ตโฮ่) หมู่ที่6 ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต มีชาวบ้านที่พักอาศัยระแวกใกล้เคียงวัดดังกล่าว ที่เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อบุญมานับร้อยคนรวมตัวกัน เพื่อคัดค้านการฌาปนกิจศพหลวงพ่อบุญมา โดยทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลวงพ่อได้สั่งไว้ก่อนท่านมรณภาพว่าห้ามเผาร่างท่าน
นายภูวนาท พวงมะลิ ชาวบ้านที่มาร่วมคัดค้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เป็นคำสั่งที่หลวงพ่อบุญมาก่อนจะมรณภาพขอไว้ว่าให้เก็บสรีระร่างของท่านไว้ แต่ตอนนี้ทางวัดได้ทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ แต่ชาวบ้านไม่มีใครรู้ ชาวบ้านระแวกวัด ชาวบ้านตำบลกะทู้ไม่มีใครรู้ ถ้ารู้ก็รู้น้อยคน ทุกคนมารู้พร้อมกันประมาณ 3-4 วันที่แล้ว ที่นำป้ายมาติดตั้งไว้ ส่วนคณะกรรมการวัดมีใครบ้างชาวบ้านก็ยังไม่รู้ ท่านมรณภาพมาประมาณ 23 ปีแล้ว วันที่มีการเปลี่ยนจีวรไม่ทราบเลยแต่ตนเห็นในสื่อโซเชียล ชาวบ้านมาวัดตอนกลางวันแต่เขาทำพิธีตอนกลางคืน ชาวบ้านที่มาในวันนี้คือต้องการให้เก็บสรีระร่างของท่านไว้เหมือนเดิม
ด้านนายเฉลิมพล บัวซ้อน ชาวบ้านอีกคนที่มาร่วมคัดค้านเล่าว่า “เป็นความประสงค์ของชาวบ้านที่นับถือหลวงพ่อบุญมาการฌาปนกิจครั้งนี้เป็นการทำโดยพละการโดยที่ชาวบ้านไม่ได้รับรู้มาก่อน ต้องการให้ยุติในการพระราชทานเพลิงศพก่อน ถ้าเป็นไปได้แต่ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็อยากให้จัดให้สมเกียรติกว่านี้ ตอนนี้รอเจ้าคณะจังหวัดอยู่ ส่วนคณะกรรมการของวัดไม่มีมา แต่ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ และอดีตเจ้าอาวาสก็เคยสั่งเสียไว้ว่าถ้าท่านมรณภาพอย่าเผาประมาณนี้ก็เลยไว้แบบนี้มาประมาณ 20 กว่าปีแล้ว แต่พอมาวันนี้มาจัดงานพระราชทานเพลิงศพท่าน มีชาวบ้านบางคนรู้แต่ว่าบางคนก็ไม่รู้แต่ชาวบ้านนับถือท่านมาก”
ในเวลาต่อมา นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าพบเจ้าอาวาสวัดเก็ตโฮ่ เพื่อชี้แจงเปลี่ยนแปลงการกำเนิดการพระราชทานเพลิงศพ หลังได้ประสานไปทางกองราชพิธีเลื่อนการพระราชทานเพลิงศพโดยไม่มีกำหนด ชาวบ้านหลังทราบเรื่องและฟังการชี้แจงต่างพอใจ และได้นำสรีระร่างของหลวงพ่อบุญมาลงมาจากเมรุแล้วนำไปเก็บไว้ในโลงแก้วภายในโบสถ์ดั่งเดิม
นายเรวัต กล่าวว่า พวกตนได้เห็นข่าวและนักข่าวท่านหนึ่งโทรไปหาว่าตอนเกิดความขัดแย้งภายในวัดเก็ตโฮ่ ขอให้ทางจังหวัดรีบมา แต่โดยหน้าที่นั้นตนทำไม่ได้ ตนจึงติดต่อไปทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แต่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตอยู่ราชการที่กรุงเทพฯ จึงส่งท่านรองนรศักดิ์ซึ่งเป็นรองผู้ว่าฯ ซึ่งท่านเดินทางใกล้ถึงวัดแล้ว ตนจึงได้โทรมาที่วัดสอบถามทางวัดว่าจะไปทางไหนดีที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชน เจ้าอาวาสปรารภกับตนว่าเกิดระเบียบเป็นการหมิ่นพระบรมราชานุภาพที่ได้ขอพระราชทานเพลิงศพมาแล้วตนเองก็กลัวมีความผิดเหมือนกัน ตนก็บอกท่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่าเป็นลักษณะอย่างนี้ ท่านผู้ว่าฯ ก็ได้ถามในกองพิธีฯ ว่าเสร็จพิธีแล้วและสามารถเลื่อนได้โดยไม่มีกำหนด
"ในฐานะเป็นชาวไทยพุทธตนเองก็อยากให้พวกเรามีความรักความสามัคคี ขอขอบพระคุณเจ้าอาวาสที่ได้เข้าอกเข้าใจพี่น้องประชาชนและพรุ่งนี้ทางจังหวัดจะได้ทำหนังสือเลื่อนโดยไม่มีกำเนิดขอให้ทุกคนกลับบ้าน" นายเรวัต กล่าว
ทางด้านนายนรศักดิ์ กล่าวว่า ท่านเจ้าอาวาสมีความกังวลว่าเมื่อมีการขอพระราชทานเพลิงศพไปแล้ว ถ้าไม่ดำเนินการจะมีความผิด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โสภณ สุวรรณรัตน์ ก็ได้แจ้งว่าสามารถทำเรื่องขอเลื่อนไปได้ เหตุผลที่ว่าพี่น้องประชาชนไม่อยากให้พระราชทานเพลิงศพก่อน ทางจังหวัดก็ได้ดำเนินการทำเรื่องไปให้ตามนั้น
