ชุดพยัคฆ์ไพรใต้ร่วมกรมป่าไม้ตรวจรุกป่าต้นน้ำบางวาด 80 ไร่ พบทำถนนขึ้นถึงยอดเขา

ภูเก็ต – ชุดพยัคฆ์ไพรใต้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าต้นน้ำเขื่อนบางวาดซึ่งพบว่ามีเนื้อที่มากกว่า 80 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด จากการตรวจสอบพบว่ามีการตัดถนนขึ้นจากพื้นราบจนถึงยอดเขาสูงชัน ความยาวถนนกว่า 1.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการปลูกพืชผลต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐหลายสิบล้านบาท

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 19 มกราคม 2564, เวลา 10:21 น.

วานนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. นายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 กรมป่าไม้ หัวหน้าชุด นายณฤเศรษฐ แก้งคง เจ้าหน้าที่ป่าไม้อาวุโส รองหัวหน้าชุดพร้อมกำลังชุดพยัคฆ์ไพรใต้ นายสมศักดิ์ เสนีย์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายสมหมาย เมืองฉิม หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ภก 2 กะรน พร้อมกำลังได้ร่วมกันตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยการตัดถนนขึ้นจากพื้นราบจนถึงยอดเขาสูงชัน

ซึ่งป่าที่ถูกทำลายซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของเขื่อนบางวาดเบื้องต้นพบว่ามีเนื้อที่ 83 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ – ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต โดยการตัดถนนเชื่อมจากเชิงเขา ตำบลกะทู้ ผ่านสันเขา ไปเชื่อมต่อตำบลวิชิต ความยาวถนน กว่า 1.5 กิโลเมตร ซึ่งใช้เครื่องจักรหนักในการตัดถนนสำหรับ บริเวณที่ตัดถนนผ่านมีการแผ้วถางป่าชั้นล่าง และมีร่องรอยการปลูก ทุเรียน สะตอ รวมเนื้อที่ 83 ไร่ มูลค่าความเสียหายต่อรัฐหลายสิบล้านบาท

นายศุภชัย เปิดเผยว่า พื้นที่ตรงนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีขบวนการตัดถนนและทำลายป่าเหนือเขื่อนบางวาด

"โดยที่ผู้ร้องแจ้งว่า ขณะที่มีเครื่องจักรหนักทำงาน มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการปราบปรามการกระทำความผิดต่อทรัพยากรป่าไม้ และ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานปกครองหน่วยงานหนึ่งเป็นผู้คุ้มครอง ให้เครื่องจักรกลหนักทำงาน และ เมื่อประชาชนที่เห็นเหตุการณ์เข้าห้ามไม่ให้ทำลายป่า กลับถูกข่มขู่คุกคาม และ แจ้งว่า เส้นใหญ่และทำให้ผู้ใหญ่รายหนึ่ง ไม่ห่วงว่า จะถูกจับกุมทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นป่าสงวนแห่งชาติ"

“หลังจากที่ผมได้รับเรื่องร้องเรียนจึงได้ส่งกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง จึงรุดเข้าตรวจพื้นที่เพื่อจับกุมดำเนินคดีและถือว่าเป็นขนวนการที่ใหญ่และบุกรุกได้ใหญ่จริง ซึ่งเรื่องนี้คงต้องรายงานให้ระดับบริหารของกรมป่าไม้ทราบถึงขนวนการที่ถือว่ายิ่งใหญ่จริง ๆ และในวันนี้คงจะไม่สามารถสรุปดำเนินการได้ทั้งหมด ในวันพรุ่งนี้ต้องดำเนินตรวจยึดพื้นที่ต่อเนื่องต่อไป”

ทั้งนี้บริเวณป่าที่ถูกทำลาย ถือว่าเป็นป่ากลางเกาะภูเก็ต ที่ยังคงมีไม้ป่าดิบชื้นขนาดใหญ่จำนวนมาก และถือว่าเป็นป่าต้นน้ำของเขื่อนบางวาด เนื่องจากอยู่เหนือเขื่อนบางวาด การกระทำของขบวนการทำลายป่าต้นน้ำในครั้งนี้ถือว่าอุกอาจมากเนื่องจากด้านล่างเป็นพื้นที่ชุมชนทั้งสอง ฝั่ง และ ด้านบนภูเขาที่ถูกทำลายตัดถนนผ่านมีความสูงถึง 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้เห็นสภาพภูมทัศน์ได้รอบตัว 360 องศา และ ด้วยเหตุนี้เองน่าจะเป็นเหตุจูงใจให้มีการตัดถนนรุกป่าในครั้งนี้

ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่