ชุมชนประชาสามัคคีร้องดีเอสไอ ถูกนายทุนฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่

กรุงเทพมหานคร – เช้าวานนี้ (23 ม.ค. 62) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนชาวบ้านจากชุมชนเกาะแก้ว จังหวัด.ภูเก็ต เดินทางยื่นหนังสือถึงดีเอสไอ ขอร้องให้ช่วยเหลือชาวบ้านหลังถูกนายทุนฟ้องขับไล่ออกจากพื้นที่ ซึ่งทางชาวบ้านอ้างว่าได้ใช้เป็นที่พักอาศัยมามากกว่า 10 ปี

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 24 มกราคม 2562, เวลา 15:04 น.

The Phuket News รายงานอ้าง Bangkok Post ว่าชาวบ้านของร้องให้ DSI ช่วยจัดทำแผนที่แสดงขอบเขตของชุมชนซึ่งอ้างอิงกับปี 2494 เพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู่ทางคดีกับนายทุนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินกว่า 300 ไร่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ (อ่าน The Phuket News คลิก) โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ เชียวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษและรองโฆษกดีเอสไอเป็นผู้รับเรื่อง

นายวีรายุทธ เจ๊ะโซ๊ะ เลขาชุมชนเป็นตัวแทนชาวบ้านยื่นหนั กล่าวว่า ชาวบ้านจำนวนกว่า 326 คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนประชาสามัคคี กำลังเผชิญกับการถูกฟ้องร้องขับไล่จากนายทุน ทั้งนี้ 26 รายที่มีรายชื่อถูกฟ้องร้องยังไม่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่เลยแต่กลับถูกฟ้องไปด้วย พร้อมกล่าวอีกว่าชาวบ้านได้เริ่มเข้ามาอยู่อาศัยในชุมชนเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา คาดว่าหลังจากการสัมปทานกิจการเหมืองแร่หมดลง

ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ที่ดินในชุมชนก็ถูกใช้ทำการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ จนกระทั่งนายทุนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ กล่าวว่า เขาได้ใช้ที่ดินทำประโยชน์ไปแล้วกว่า 297 ไร่ โดยการปลูกมะพร้าวและต้นจากมาตั้งแต่ปี 2494 ก่อนหน้าที่กฎหมายที่ดินจะถูกประกาศใช้

เขากล่าวต่ออีกว่า คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินได้ใช้หลักฐานการเป็นผู้รับสัมปทานเหมืองแร่ประกอบในดคี ทำให้ชนะคดีในศาลฎีกา และใช้คำตัดสินของสารเป็นข้ออ้างในการฟ้องขับไล่ชาวบ้านทั้ง 326 คน

ในปี 2548 สํานักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ว่าง ยังไม่ถูกครอบครอง ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอาศัยอยู่ในชุมชน นายวีรายุทธ กล่าว จากนั้นก็ได้มีการสร้างถนน น้ำประปา และไฟฟ้าก็ได้เข้ามาทำการติดตั้งภายในชุมชน รวมถึงมัสยิดและโบสถ์คริสต์ในชุมชน

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า หลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้มีเพียงสำเนาคำสั่งศาลฎีกาเท่านั้น ซึ่งทางดีเอสไอ จะต้องทำการศึกษาในรายลุะเอียดให้ถี่ถ้วน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือหรือให้คำแนะนำกับชาวบ้าน

เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2560 ชาวบ้านชุมชนประชาสามัคคี กว่า 100 คน ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากปัญหานายทุนแอบอ้างเป็นเจ้าของที่ดิน

เช้าวันที่ 6 ธ.ค. ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชาวบ้านชุมชนประชาสามัคคี นำโดยนายสุรศักดิ์ ไถนาเพรียว ประธานชุมชน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือ (อ่านเพิ่มเติม คลิก

ในครั้งนั้น นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยชุมชนประชาสามัคคี หมู่ที่ 2 ต.เกาะแก้ว มีพื้นที่รวมประมาณ 300 กว่าไร่ เป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ (ที่ดินเปล่า) มีประชาชนอาศัยอยู่มากกว่า 350 หลังคาเรือน โดยพื้นที่ดังกล่าวมีสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา และ บ้านเรือนประชาชน ซึ่งประชาชนได้ครอบครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยมากว่า 10 ปี และไม่มีผู้ใดเข้ามาโต้แย้งหรือแย่งสิทธิการครอบครองที่ดิน ต่อมาเมื่อประมาณปี 2556 ได้มีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของมรดกที่ดินดังกล่าว อีกทั้งมีข่าวว่าจะใช้กำลังคนกว่า 200 คน มาขับไล่ ทำให้ประชาชนในชุมชนฯ เกิดความวิตกกังวลไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นตัวแทนชุมชนประชาสามัคคีพร้อมด้วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจึงขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตเข้าไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายวีรายุทธ เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า นายสุรศักดิ์ ซึ่งเป็นประธานชุมชน ถูกฟ้องร้องขับไล่ถึง 4 คดี ประกอบด้วย คดีอาญา 1 คดี และแพ่งอีก 3 คดี

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่