ญาติสาวกินแมงดาทะเลตาย ร้องศูนย์ดำรงธรรมเรียกร้องให้รพ.รับผิดชอบ

ภูเก็ต - วันนี้ (6 ต.ค.63) ญาติของหญิงที่เสียชีวิตจากการรับประทานแมงดาทะเล ที่ทางครอบครัวออกไปจับมาและประกอบอาหารรับประทานเองภายในบ้าน ล่าสุดได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และขอให้โรงพยาบาลรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ฝ่ายหัวหน้ากลุ่มการแพทย์โรงพยาบาลได้ทำการสอบถามเพิ่มเติมกับทีมแพทย์และพยาบาลที่รักษาคนไข้แล้ว

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 6 ตุลาคม 2563, เวลา 19:04 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

จากกรณี นางสาววันทนา พุดช่อ รับประทานแมงดาทะเล ชนิดแมงดาถ้วย เกิดอาการอาเจียน มึนศีรษะเดินเซ ทางญาติได้นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต(อบจ.ภูเก็ต ) แต่ประวัติการรักษาของนางสาววันทนาฯ อยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทางโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตได้ตรวจและให้ยาแก้แพ้แก้คันลดน้ำมูกแก้คลื่นไส้อาเจียน จากนั้นทางญาติได้นำนางสาววันทนาฯ กลับบ้าน เกิดอาการมือเขียว ตัวเขียว ได้โทรขอความช่วยเหลือ 1669 มารับส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตจากพิษแมงดาทะเล โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดในบ่ายวันนี้ นายอนุกูล เล่งอี้ น้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เพื่อความยุติธรรมในเรื่องนี้ ทางครอบครัวได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตเพื่อต่อสู้ให้หลานสาว

"ต้องการให้โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตรับผิดชอบการตายของหลานสาว ซึ่งในห้วงเวลาเข้ารับการรักษาสอบสวนอาการคนไข้อาจผิดพลาด และกรณีนี้เป็นคนไข้ฉุกเฉิน แต่ มารดาผู้เสียชีวิตต้องวางมัดจำค่าใช้จ่ายเร่งด่วน แพทย์ได้จ่ายยามา 3 ตัว และฉีดยา ให้นอนพักฟื้น 2 ชั่วโมง จากนั้นประเมินให้กลับไปกินยาพักผ่อนที่บ้านแต่เมื่อถึงบ้านคนไข้เกิดการช๊อคได้โทรหา 1669 ช่วยทำCPR นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตตั้งคำถามกับทางญาติว่าทำไมไม่ส่งให้เร็วกว่านี้ ดังนั้น ต้องมาคุยกับโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตว่าประเมินอาการผิดพลาดหรือไม่ ทำไมไม่ส่งต่อระหว่างโรงพยาบาลด้วยกันหรือรับรักษาไว้ที่โรงพยาบาลอบจ.อย่างที่ควรจะเป็น "นายอนุกูล กล่าว

ด้าน นายแพทย์พัลลภ เทพวงศ์ หัวหน้ากลุ่มการแพทย์ โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต(อบจ.ภูเก็ต) เปิดเผยว่า ได้สอบถามเพิ่มเติมกับทีมแพทย์ และพยาบาลที่รักษาคนไข้แล้วทราบว่า คนไข้รายนี้เข้ามารักษาโดยมีอาการคันตามตัวและมีการดื่มสุรามาก่อนหน้านี้ด้วย เมื่อมาถึงโรงพยาบาลได้รักษาตามอาการเบื้องต้นของคนไข้ และสังเกตอาการหลังจากคนไข้อยู่โรงพยาบาล 1 ชั่วโมงครึ่ง อาการคนไข้ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลได้ปรึกษากับญาติของคนไข้ ทางญาติจะรับคนไข้ไปสังเกตอาการที่บ้าน หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลได้ให้คำแนะนำถึงการสังเกตอาการที่บ้านว่า ถ้ามีอาการสามารถพามารักษาได้ที่โรงพยาบาล

“ในเรื่องที่ญาติคนไข้ติดใจ ทางโรงพยาบาลฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำข้อมูลมาปรึกษากันและอยู่ในช่วงที่พูดคุยกับญาติ เพื่อให้ญาติเกิดความสบายใจ ได้ข้อเท็จจริงที่ยุติธรรมที่สุด นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลสภาพจิตใจของญาติในงานด้วย" นายแพทย์พัลลภ กล่าว

ด้าน นางสมใจ กิ่งวงศา มารดา ผู้เสียชีวิต กล่าวว่าจากการที่หมอโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต ออกมาบอกว่า มีการดื่มสุราแล้วเข้ารักษานั้นยืนยันว่า บุตรสาวกินแมงดาทะเลจริงไม่ได้กินเหล้าตาย ซึ่งไม่เข้าใจโรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ต เมื่อบุตรสาวมีอาการสาหัส ทำไมไม่ส่งต่อไปโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทำไมให้กลับบ้าน ต้องการให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงความจริง หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตนำพวงหรีดมาวางในงานศพแต่ไม่มีการพูดคุยกัน ส่วนโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมีเจ้าหน้าที่ได้สอบถามมาพร้อมให้การช่วยเหลือ

“วันเกิดเหตุก่อนที่บุตรสาวจะกินแมงดาทะเลเข้าไป ได้คุยกับคนเก็บผักว่าขอถุงปุ๋ย 3 ใบจะไปเก็บเห็ดที่หงสาวดี จากนั้นกินแมงดาทะเลเข้าไปและเสียชีวิต ทางครอบครัวเสียใจมากที่เกิดการสูญเสีย และเมื่อคืนที่ผ่านมาบุตรสาวได้มาเข้าฝัน มาก้มลงกราบพร้อมบอกว่า หากทำผิดอะไรกับแม่ ขอโทษด้วยนะก่อนจะโบกมือลาบ๊ายบายแบบฝรั่ง แล้วหายไปในความฝัน” นางสมใจ กล่าว

ขณะนี้ตั้งศพของนางสาววันทนาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่สำนักสงฆ์ กิ่งแก้ว กำหนดฌาปณกิจในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ ที่วัดถาวรคุณาราม(วัดแสนสุข )


ด้าน นายแพทย์กฤษณ์ สกุลแพทย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กรณีรายนี้ถือเป็นรายแรกในจังหวัดภูเก็ตที่รับประทานแมงดาทะเลเข้าไปแล้วเสียชีวิต

"กรณีนี้ มีรายงานว่าผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลอบจ.ภูเก็ตและโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เมื่อมาที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตพบว่ามีอาการหนักแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาหาข้อมูลสอบสวนโรค ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรให้ชัดเจน อยู่ระหว่างสอบสวนหาข้อเท็จจริง และ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย "นายแพทย์ กฤษณ์ กล่าวและว่า

แมงดาทะเล เป็นสัตว์ชนิดที่มีพิษและไม่มีพิษ ตัวที่มีพิษ เรียกว่า แมงดาถ้วย มีพิษทำให้เสียชีวิตได้ อีกชนิดเรียกว่า แมงดาจาน ตัวใหญ่กว่าแมงดาถ้วย สังเกตได้ คือ แมงดาถ้วย หางกลม ส่วนแมงดาจาน หางสามเหลี่ยม ที่สำคัญ ไข่แมงดาจะมีพิษมากกว่าส่วนเนื้อ อันตรายถึงเสียชีวิตได้

อาการที่พบเมื่อรับประทานเข้าไป จะมีอาการเหมือนอาหารเป็นพิษทั่วไป มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน สารพิษ จะเกิดอาการชา ลิ้นชาปาก มือ แขนขา กล้ามเนื้อจะเป็นอัมพาต กล้ามเนื้อหายใจไม่ทำงาน เป็นเหตุให้เสียชีวิต การรักษายังไม่มียาต้านสารพิษจากแมงดามีเพียงรักษาประคับประคองช่วยรอให้พิษหมด หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้น

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่