เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต และ กก.2 บก.สส.สตม ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาดังนี้
1.นายคัง มินกู หรือ Mr. KANG MINGU สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และ เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 253 วัน)” เป็นบุคคลมีประวัติกระทำความผิดที่ประเทศเกาหลีใต้และมีหมายจับของตำรวจสากล (Interpol) ในข้อหาเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก
2.นายจอง ซอลเจ หรือ MR.CHUL JAE JUNG สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
3.นายมิน จูวอน หรือ MR.MIN JOO WON สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และ 4.นาย คิม ยุนซู หรือ MR.KIM HYUN SU อายุ 44 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ ข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ตม.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้รับการร้องขอและประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย ให้ติดตามกลุ่มชาวเกาหลีใต้ที่มีพฤติการณ์กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มชาวเกาหลีดังกล่าวนี้ ร่วมกันเช่าบ้านพักเลขที่ 59/479 ม.4 หมู่บ้านวิลล่ากะทู้ 3 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สำหรับพักอาศัย
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 16.30 น. จึงได้เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจค้นพบกลุ่มผู้ต้องหากำลังนั่งในลักษณะทำงานอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ตรวจค้นพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก โดยขณะตรวจค้นพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้เปิดหน้าจอดทำงานในลักษณะของการเขียนและออกแบบเว็ปไซต์ และยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ทำธุรกรรมรับซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรแต่อย่างใด อีกทั้ง นายคัง มินกู ได้เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 253 วัน) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำกลุ่มผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจค้นที่เกิดเหตุพบเอกสารสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งระบุชื่อคู่สัญญาเป็นบุคคลอื่นในที่เกิดเหตุ อันเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ประกอบธุรกิจให้สิ้นและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป
