ตม.ภูเก็ตรวบอดีตพระเขมร ปลอมบัตรประชาชนไทยแฝงตัวอยู่ภูเก็ตนาน 13 ปี

ภูเก็ต – วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต เปิดเผยผลการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ภายหลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีชายใช้บัตรประจำตัวประชาชนในชื่อนายสมบูรณ์ฯ ซึ่งเป็นบัตรประชนปลอม น่าเชื่อว่าแฝงตัวหลบหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ โดยไม่ทราบชื่อสกุลจริง และอาศัยอยู่ในพื้นที่ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายสมบูรณ์ตัวจริงนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 24 มกราคม 2563, เวลา 15:04 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

จากนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวน ติดตามตัวนายสมบูรณ์ตัวปลอมดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบข้อมูลว่า ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกชายคนดังกล่าวว่า "อาจารย์" เนื่องจากเคยบวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอถลางมาก่อนตั้งแต่ปี 2533 ถึง 2549 จึงได้สึกจากสมณเพศ จากนั้นได้รับจ้างทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ณ หาดกะหลิม อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และพักอาศัยอยู่ที่อาคารพักอาศัยใกล้วัดบางเทา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงได้ออกไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงได้พบชายคนตังกล่าวมีตำหนิรูปพรรณตามที่สายลับแจ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปแสดงตนและขอตรวจสอบบัตรประชาชน ชายคนดังกล่าวซึ่งพูดไทยชัดเจนได้แจ้งว่าตนชื่อนายสมบูรณ์ ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ และแสดงบัตรประชาชนปลอมดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่

เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าบัตรประชาชนที่แสดงนี้เป็นบัตรประชาชนปลอม ชายคนดังกล่าวจึงรับสารภาพว่าตนชื่อ นายกิ้ม อายุ 49 ปี สัญชาติกัมพูชา และรับสารภาพว่าตนเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และบัตรประชาชนดังกล่าวเป็นบัตรประชาชนปลอม

นอกจากนี้ยังให้การว่า เดิมตนเป็นพระกัมพูชาหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย และได้บวชและอาศัยอยู่ในวัดแห่งหนึ่งที่อำกอถลางตั้งแต่ปี 2533 กระทั่งสึกออกมาในปี 2549 จากนั้นได้ติดต่อให้เพื่อนชาวกัมพูชาทำบัตรประชาชนไทยปลอม โดยการส่งรูปไปให้เพื่อนของตนทำบัตรประชาชนปลอมให้ เจตนาเพื่อให้ตนอาศัยอยู่ในประเทศไทย

และตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาตนใช้ชื่อว่านายสมบูรณ์ กระทั่งเมื่อปี 2556 บัตรประชาชนไทยปลอมใบแรกหมดอายุ ตนจึงได้ส่งรูปถ่ายตนให้เพื่อนคนดังกล่าวอีกครั้ง และได้บัตรประชาชนชื่อนายสมบูรณ์ใบที่สอง (ซึ่งเป็นของกลางในคดีนี้) นำติดตัวไว้ใช้เรื่อยมากระทั่งถูกจับกุม โดยค่าทำบัตรประชาชนปลอมราคา 15,000 บาท และตนไม่รู้จักกับนายสมบูรณ์ฯ เข้าของบัตรประชาชนตัวจริงแต่อย่างใด

ตม.จว.ภูเก็ต จึงได้แจ้งขัอกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ไดั รับอนุญาต, ปลอมบัตรประจำตัวประชาชน และใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม, ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล จว.ภูเก็ต ตำเนินคดีตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้นำบัตรประชาชนของกลางนั้นมาตรวจสอบ พบว่าชิปของบัตรแสตงชื่อของนายเอกพงศ์ฯ ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลหน้าบัตรที่ปรากฏชื่อของนายสมบูรณ์ บนหน้าบัตรแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลหาแหล่งผลิตบัตรประชาชนปลอม และเครือข่ายทำปลอมบัตรประชาชนต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่