ที่ห้องฉุกเฉิน รพ.วชิระภูเก็ต พบนายดนุเดช มะลิวัลย์ อายุ 40 ปี แพทย์และพยาบาลกำลังทำบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณแขนซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน หลังทำการผ่าตัดนำหัวกระสุนปืนออกส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ภูเก็ตตรวจสอบที่มาของหัวกระสุนปืนและขนาด
ร.ต.อ.เอกศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นนายอนุเดชยังคงรู้สึกตัวดี สามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามปกติ ขณะเดียวกันพบนายศิริพันธ์ ชนะภัย อายุ 30 ปีและนายมนัส สุพงศ์ อายุ 38 ปี เพื่อนของนายดนุเดชที่อยู่ในที่เกิดเหตุยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นได้เชิญตัวนายศิริพันธ์และนายมนัสไปให้ปากคำที่ สภ.ถลาง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายดนุเดช นายศิริพันธ์และนายมนัส เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่มีการปลูกยางพาราได้ไปเฝ้าสวนยางพาราบริเวณที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมามักมีคนร้ายเข้าไปขโมยขี้ยางพาราอยู่เป็นประจำ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจึงมาเฝ้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะเกิดเหตุทั้ง 3 คนนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ที่ริมถนนหน้าสวนยางพาราของบริษัท จากนั้นได้มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริสสีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ภายในรถมีชายฉกรรจ์จำนวน 3 คนขับเข้ามาจอดบริเวณที่ทั้ง 3 คนนั่งอยู่ จากนั้นคนนั่งข้างคนขับได้ลดกระจกลงแล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดสาดกระสุนเข้ามายังกลุ่มจำนวน 5 นัด ทำให้กระสุนพุ่งเข้าที่บริเวณแขนซ้ายของนายดนุเดชได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายศิริพันธ์และนายมนัสไม่ถูกคมกระสุน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บก่อนจะขับรถหลบหนีไป
โดยบริเวณที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ถูกยิงขนาด .38 จำนวน 1 นัดตกอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นนายศิริพันธ์และนายมนัสให้การว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใดมาก่อน จึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ขณะที่ตำรวจตั้งประเด็นไว้กว้างๆ เช่น ขัดแย้งเรื่องส่วนตัว หรือกลุ่มคนร้ายต้องการที่จะเข้ามาขโมยขี้ยางพาราที่สวนยางพาราดังกล่าว แต่กลับมาพบกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ จึงเกิดความโกธรแค้น
อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป