จึงได้ไปทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติออสเตรเลีย อายุ 44 ปี มีกำหนดเดินทางกลับประเทศด้วยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก โดยได้เดินทางมายังสนามบินและทำการเช็คอินกับสายการบินเป็นที่เรียบร้อย
แต่เมื่อเข้าพิธีตรวจลงตราประทับที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออก เจ้าหน้าที่ ตม.ได้ตรวจสอบพบว่า นทท.คนดังกล่าวได้อยู่เกินเวลา (Over stay) เป็นจำนวน 22 วัน ซึ่งจะต้องจ่ายค่าปรับการอยู่เกินวันละ 500 บาท เป็นจำนวนเงิน 11,000 บาท แต่ นทท.แจ้งว่าตนมีเงินไม่พอโดยมีเงินสดอยู่เพียง 8,000 บาท เจ้าหน้าที่ ตม.จึงไม่สามารถอนุญาตให้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองขาออกเพื่อเดินทางกลับประเทศได้
สอบถามเพิ่มเติมทราบว่า กระเป๋าสตางค์และบัตรเครดิตต่างๆ ของ นทท.คนดังกล่าว ได้ถูกขโมยไปก่อนหน้านี้และได้ทำการแจ้งความไว้แล้ว โดยได้แจ้งเพิ่มเติมว่า ตนมีเงินอยู่ในบัญชีต่างประเทศแต่ไม่สามารถทำการโอนหรือกดเงินสดออกมาได้
ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กงสุลออสเตรเลียแจ้งเพื่อทราบและช่วยดำเนินการติดต่อธนาคารของ นทท. คนดังกล่าวต่อไป ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่กงสุลทำการติดต่อธนาคารให้และเพื่อให้ นทท.หายจากอาการมึนเมา เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ นทท.ไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน ขณะนี้ นทท. คนดังกล่าวได้เดินทางขึ้นเครื่องกลับประเทศเป็นที่เรียบร้อย
