จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Porawee Kamjeed” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่ม “ร่วมด้วยช่วยกัน ภูเก็ต” โดยให้รายละเอียดว่า “ขออนุญาตค่ะ ตามหาญาติให้น้องตอนนี้น้องนอนอยู่โรงพยาบาลวชิระ น้องโดนทำร้ายร่างกาย มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ไปเจอข้างทาง อาการของน้องในขณะนี้อาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว พักรักษาอยู่ที่ตึกอันดามันชั้น 1 เตียง 10 (ศัลยกรรมประสาทชาย)” หลังจากมีการโพสต์ภาพผู้บาดเจ็บ ลงในโซเชียล ทำให้มีผู้คนเข้าไปแชร์ต่อและแสดงความรู้สึกเป็นจำนวนมาก
ภายหลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายโชคชัย อนิวรรตน์ อายุ 26 ปี อาศัยอยู่บ้านพักกับมารดาและแฟนสาว บริเวณซอยตลิ่งชัน ต.ตลาดใหญ่ ได้ออกจากบ้านไปกับเพื่อนก่อนจะหายตัวไป ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งมาทราบข่าวว่าได้รับบาดเจ็บนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ตามที่สื่อโซเชียลมีการโพสต์ตามหาญาติ
จากการตรวจสอบข้อมูลกับทางโรงพยาบาลทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 27 พ.ย.ได้มีผู้ที่อ้างว่าเป็นพลเมืองดี นำตัวนายโชคชัยซ้อนรถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และบอกว่าพบตัวผู้บาดเจ็บนอนอยู่ริมถนนแถวซอยหล่อโรง ซึ่งห่างจากบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนที่พลเมืองดีคนดังกล่าวจะเดินทางกลับไป และมีการโพสต์ตามหาญาติในวันนี้
สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 63 เวลา 21.13 น. ขณะที่ พ.ต.ท.หญิงนุชรี ล่องแก้ว ปฎิบัติหน้าที่ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ว่าได้มีพลเมืองดีพบชายไทย และทางมูลนิธิฯได้นำตัวชายดังกล่าวส่งยัง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อรักษาบาดแผลแล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ต่อมาทราบชื่อสกุลจริงผู้ได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบมีได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำตามบริเวณที่ใบหน้าและร่างกาย หลังทราบเรื่องได้ประสานแจ้งญาติผู้บาดเจ็บทันทีแต่ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้บาดเจ็บได้
กระทั่งในวันนี้(29 พ.ย.63) เวลาประมาณ 10.00 น. ได้รับแจ้งจากรพ.วชิระภูเก็ตว่า นายโชคชัยได้เสียชีวิตแล้วที่รพ.วชิระภูเก็ต จึงได้ร่วมกับแพทย์นิติเวชรพ.วชิระภูเก็ต ชันสูตรพลิกศพผู้ตายและได้รับคำร้องทุกข์ไว้ทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายในคดีนี้ในความผิดฐาน "ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั่นถึงแก่ความตาย"
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ตได้ประสานไปยังแฟนสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านของเพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บที่มารับตัวออกจากบ้าน ขณะเดียวกันก็เร่งหาความชัดเจนเรื่องจุดที่พลเมืองดีอ้างว่าพบตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงว่า มีการทำร้ายร่างกายจุดใดกันแน่ เพื่อจะได้หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป