สืบเนื่องจาก ตำรวจไซเบอร์ สอท.5 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันสืบสวน จนพบข้อมูลว่า ได้มีเว็บไซต์พนันออนไลน์จำนวนมาก อาทิ GoatBet178, Icb365, Lavaslot777, Lava123, Sexybestbacarat, Sabestbacarat และอีกจำนวนหลายเว็บไซต์ ซึ่งมีการจับกุมในฐานความผิดโฆษณาชักชวนให้เล่นพนันและร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์โดยผิดกฎหมายไปแล้ว
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของเว็บไซต์เหล่านี้ พบว่า เมื่อมีการโอนเข้าบัญชีเว็บไซต์การพนัน ยอดเงินดังกล่าวก็จะถูกโอนต่อกันออกไปทันทีเป็นทอด ๆ ครั้งละหลายสิบบัญชีอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากระบบบัญชีม้ารูปแบบเดิมที่เว็บไซต์การพนันออนไลน์ใช้กัน ที่มักโอนต่อกันเป็นทอด ๆ จนถึงผู้รับผลประโยชน์
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหานี้ได้สร้างระบบการเงินสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ ชื่อ tsn7.yourpay และแอปพลิเคชันสำหรับติดตั้งลงในโทรศัพท์ทั้งระบบ Android และ iOS ชื่อ Tsnupay พร้อมทั้งว่าจ้างคนไทยในพื้นที่ให้เปิดบัญชีม้าและทำหน้าที่สแกนใบหน้า เพื่อรับโอนเงินให้แก่เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ว่าจ้าง โดยได้รับเงินส่วนแบ่งจากยอดเงินที่โอนผ่านระบบดังกล่าว
โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้ มีทั้งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำหน้าที่รับดูแลและปกปิดเส้นทางการเงินให้แก่เว็บไซต์การพนันออนไลน์ ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์การพนันไม่ต้องจัดหาบัญชีม้าเอง เมื่อมีการโอนเงินเข้ามายังระบบดังกล่าวที่ถูกติดตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือ ยอดเงินจะถูกโอนต่อไปยังบัญชีที่ตั้งไว้อัตโนมัติ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่รับดูแลระบบการเงินดังกล่าว เป็นกลุ่มชาวไต้หวันที่เดินทางเข้ามากระทำความผิด และกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มักย้ายสถานที่ตลอดเวลา และเลือกเช่าบ้านหรูหรือคอนโดมิเนียมราคาแพง เพื่อตั้งเป็นฐานบัญชาการเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ ทำให้ยากต่อการเข้าไปสืบสวน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้แล้ว จำนวน 29 ราย
ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 10 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.5 พร้อมหมายค้นจากศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านหรูในพื้นที่ ถ.เทพกษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เกาะแก้ว จ.ภูเก็ต จากการตรวจค้นภายในบ้าน พบบุคคลสัญชาติไต้หวันทำหน้าที่ดูแลระบบการเงิน และคนไทยที่คอยทำหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อโอนเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 6 ราย เป็นบุคคลสัญชาติไต้หวัน จำนวน 3 ราย และคนสัญชาติไทย จำนวน 3 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่
1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่าง ๆ รวม 119 เครื่อง
2.เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 เครื่อง
3.สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 19 เล่ม
4. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 6 เม็ด
5. ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเค) น้ำหนัก 74.5 กรัม
โดยชาวไต้หวันที่โดนจับกุมในบ้าน มีหน้าที่ดูแลไม่ให้โทรศัพท์หน้าจอดับ เพื่อให้ระบบทำงานตลอดเวลา และคอยตรวจสอบยอดเงินให้ตรงกับสลิปการโอน หากโปรแกรมแจ้งเตือนก็จะเรียกคนไทยที่เป็นบัญชีม้ามาสแกนหน้าโอนเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมียอดเงินโอนผ่านระบบ เกือบ 10 ล้านบาทต่อวัน
จากการสอบถามผู้ต้องหาชาวไต้หวัน เบื้องต้นรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวไต้หวันให้เดินทางมาทำงานดูแลระบบในประเทศไทย โดยได้ค่าตอบแทน 50,000 บาทต่อเดือน สลับสับเปลี่ยนกันทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคนไทยได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีคู่กับลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวนบัญชีละ 2,500 บาท โดยให้เปิดบัญชีธนาคารคนละ 4 บัญชี และได้เงินตอบแทนในการสแกนใบหน้า จำนวน 20,000 บาท ต่อเดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน, เป็นธุระจัดหาโฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขายบัญชีเงินฝาก เลขหมายโทรศัพท์, เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือหมายเลขโทรศัพท์ โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด และมียาเสพติดให้โทษประเภทประเภท 1 และ 2 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวนับเป็นองค์กรฟอกเงินข้ามชาติที่พยายามปกปิดเส้นทางการเงินในการกระทำความผิดของกลุ่มเว็บพนันออนไลน์ ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์กำลังเร่งตรวจพิสูจน์ของกลางและโทรศัพท์มือถือที่ตรวจพบทั้งหมด และติดตามเส้นทางการเงินเพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้กระทำความผิดอื่น ๆ ทุกเว็บไซต์ โดยคาดว่าจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้