ตรวจเข้มร้านขายกัญชาป่าตอง จับ 1 กำชับลูกค้าไม่ให้สูบกัญชาส่งกลิ่นเหม็นและควันรำคาญ

ภูเก็ต - นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรป่าตอง บูรณาการตรวจเข้มร้านจำหน่ายกัญชา ในพื้นที่ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ย้ำ ต้องได้รับใบอนุญาตและต้องกำชับลูกค้าไม่ให้สูบกัญชาในบริเวณสถานประกอบกิจการส่งกลิ่นเหม็นและควันก่อเหตุรำคาญ

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันศุกร์ ที่ 14 เมษายน 2566, เวลา 15:00 น.

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 66 นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางพุทธชาติ สังข์ประพันธ์ เภสัชกรชำนาญการ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง, เจ้าพนักงานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ ร่วมตรวจสอบสถานประกอบกิจการจำหน่ายกัญชา ในตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้

จากการลงพื้นที่พบผู้กระทำผิด 1 รายได้ร่วมกันแจ้ง ข้อกล่าวหาและทำการจับกุม นายเปรม ปีติรักสกุล อายุ 43 ปี พร้อมด้วยของกลาง มี ช่อดอกกัญชา บรรจุในภายในขวดโหล น้ำหนักประมาณ 20 กรัม จำหน่ายกรัมละ 100 บาท,ช่อดอกกัญชา บรรจุในภายในขวดโหล น้ำหนักประมาณ 5 กรัม จำหน่ายกรัมละ 1000 บาท, ช่อดอกกัญชา แบบพันลำจำหน่าย จำนวน 7 มวน จำหน่ายมวนละ 100 บาท ตำแหน่งที่พบของกลาง วางอยู่บนโต๊ะที่ใช้ในการจำหน่าย จึงแจ้งข้อกล่าวหา "จำหน่ายสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยผู้ต้องหาได้กระทำผิดซึ่งหน้า

เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบใบอนุญาตจาก นายเปรม บิติรักสกุล ปรากฎว่า นายเปรม ปีติรักสกุล ไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูปกัญชา นางพุทธชาติ สังข์ประพันธ์ เภสัชกรชำนาญการ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงได้ทำการจับกุมพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตและตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จะเข้มงวดกวดขันตรวจสอบการจำหน่ายกัญชา ย้ำ ต้องได้รับใบอนุญาตและต้องกำชับลูกค้าไม่ให้สูบกัญชาในบริเวณสถานประกอบกิจการส่งกลิ่นเหม็นและควันก่อเหตุรำคาญ

อย่างไรก็ตาม นอกจากการขออนุญาตของสถานประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ควรแจ้งผู้รับบริการห้ามสูบกัญชาในพื้นที่บริเวณสถานประกอบการ เนื่องจากหากพบว่ามีการสูบกัญชาส่งกลิ่นเหม็นและควันที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนหรือผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงจะถือว่าเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ซึ่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีอำนาจออกคำแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไขและระงับเหตุรำคาญ หากยังไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม สามารถออกคำสั่งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองอาคารสถานที่ นั้น ระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาอันสมควร และกำหนดวิธีการเพื่อป้องกันมิให้มีเหตุรำคาญเกิดขึ้นในอนาคตได้

หากฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนร้านอาหารที่ใช้กัญชาในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารประเภทปรุงสำเร็จเพื่อการจำหน่าย ต้องติดข้อความหรือป้ายสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการใช้กัญชาที่ชัดเจนแสดงเมนูอาหาร และแสดงข้อแนะนำในการบริโภคอาหารที่มีกัญชา และต้องขอรับใบอนุญาต หรือขอรับหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มาตรา 38 หากไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือกรณีไม่มีหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท เช่นกัน

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่