เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (18 มิ.ย.) นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) ได้โพสต์ความคืบหน้าของเจ้าพะยูนน้อยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Kongkiat Kittiwatanawong ระบุว่า การเลี้ยงมาเรียมในธรรมชาติเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะหน้ามรสุมขอบคุณทีมงานเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครผู้ทำงานเบื้องหลัง
ในขณะที่นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต”หนึ่งใผู้ร่วมภารกิจดูแลมาเรียม ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อต้นสัปดาห์เช่นกันในหัวข้อ “ยอมใจมาเรียมซึ้งใจผู้ช่วยเหลือ” ซึ่งระบุว่า สภาพแวดล้อมที่ดูแลเจ้ามาเรียม มีผลต่อการฟื้นฟูพฤติกรรม และการเรียนรู้ต่อสภาพแวดล้อมในสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี และตรงนี้คือจุดที่มาเรียมเลือกมาอยู่ โดนสัญชาตญาณ ซึ่งมีญาติพี่น้องเค้าอยู่แถวนั้นด้วย เป้าหมายคือ มาเรียมสามารถอยู่รอดในธรรมชาติได้ เพราะฉะนั้น มาเรียม มีความสุขแต่ทุกคนที่ดูแลมาเรียมนั้นลำบาก...แต่ก็ยิ้มได้
การเฝ้าป้อนนมให้ครบตามจำนวน การพาออกกำลังกาย การสอนกินหญ้าทะเล ต้องอยู่ในนํ้าวันละหลายชั่วโมง เสี่ยงต่อการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อขา ตากแดด ทาครีมกันแดดไม่ได้ เพราะอาจปนเปื้อนมาเรียม ล่าสุดมีอาสาถูกแมงกระพรุนไปสองราย หนึ่งรายนอนโรงพยาบาล เสี่ยงต่อแตนทะเลและปลากระเบน ซึ่งไม่มีใครบ่นหรือท้อสักคน ล้วนทำหน้าที่ของตนเองอย่างเคร่งครัด ยามกลางคืนก็มีเวรเฝ้ายาม ติดตามมรสุม ระดับนํ้าขึ้นนํ้าลง รวมถึงเรือที่อาจหลงสัญจรไปมาให้ความปลอดภัยแก่มาเรียมตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีชุมชนเข้ามาร่วม
ขวัญกำลังใจทุกคนเต็มเปี่ยม แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคืออุปกรณ์เซฟตี้ผู้ปฎิบัติงานที่เสียสละ เช่น ชุดป้องกัน รองเท้า ถุงมือ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล และอีกหลาย ๆ อย่างซึ่งกำลังทยอยจัดหาขอบพระคุณกลุ่มแนวร่วมอนุรักษ์ ที่สนับสนุนชุดปฏิบัติงานที่ปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่และอาสา
ขอบพระคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนกระเป๋ากันนํ้าแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ภารกิจนี้เป็นจิ๊กซอว์ ที่หลายฝ่าย หลายหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ประสานความร่วมมือ สนับสนุนกัน แล้วเกิดเป็นภาพต่อของพะยูนไทย สัตว์ป่าสงวนที่งดงามให้กำลังใจทุกคนกันครับ #SurvivalTogether.
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ได้มีแฟนคลับของเจ้ามาเรียมจำนวนมาก ที่ได้เข้ามาให้กำลังใจและแสดงความชื่นชม ต่อทีมงานผู้ใจดีทุกท่านพร้อมทั้งเรียกขานเจ้ามาเรียมว่าเป็น “เน็ตไอดอล” ไปแล้ว