ถอนวีซ่าหนุ่มมะกันเจ้าของบ้านกลางทะเล บูรณาการตรวจอู่ต่อเรือพบตั้งโรงงานไม่มีใบอนุญาต

วานนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายศิวัชฐ์ ระวังกุล จ่าจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายวัชรินทร์ ไชยานุพงศ์ อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต พันโทณัฐภูมิ ฉัตรภูมิ ผบ.พันสห.41 หัวหน้าชุด ชป.สห.รส.ทภ.4, ร.ท.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ภูเก็ต กรมทหารราบที่ 25 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบอู่ต่อเรือภายในบ้านหยิด หมู่ที่ 7 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังมีการตรวจสอบพบว่าอู่ต่อเรือแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ชายชาวต่างชาติ และภรรยาคนไทย เจ้าของที่พักตามแนวทางของกลุ่ม Seasteadingได้ว่าจ้างให้สร้างอาคารทรงแปดเหลี่ยมและนำไปติดตั้งกลางทะเล

ซึ่งทางเจ้าของสิ่งปลูกสร้างคือ นายชัด แอนดริว เอลวาร์โตวสกี (Chad Andrew Elwartowski) สัญชาติอเมริกัน และภรรยาชาวไทย น.ส.สุปราณี เทพเดช หรือ Nadia Summergirl ได้มีการโฆษณาชักชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบในแนวคิดดังกล่าว มาอาศัยอยู่เพื่อจัดตั้งชุมชน โดยมีเป้าหมายที่จะสถาปนาเป็นรัฐอิสระหรือเขตปกครองตนเองขึ้นในอนาคต พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวยังได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณจุดที่มีการนำอาคารลงทะเลด้วย

ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต รายงานว่า อู่ต่อเรือดังกล่าวเป็นอาคารโรงเรือนสร้างอยู่บนที่โล่งแจ้ง ภายในอาคาร มีเรือยอช์ทขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการต่อ 2 ลำ พร้อมด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ในการต่อเรือและซ่อมเรือ ด้านนอกอาคารมีเรืออยู่ระหว่างรอการซ่อมแซมอยู่จำนวนหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังพบชายชาวต่างชาติ 1 คน และเจ้าหน้าที่คนไทย 1 คน จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบเพียงว่า ได้เช่าพื้นที่ดังกล่าวสำหรับใช้เป็นสถานที่ในการต่อและซ่อมเรือยอช์ท ส่วนเอกสารรายละเอียดต่าง ๆ อยู่ที่บริษัทซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ที่สำนักงานของบริษัทฯ นำมาให้ตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีการขออนุญาตจัดตั้งบริษัทถูกต้อง แต่ไม่พบเอกสารรายละเอียดในการขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535

นอกจากนี้ทางคณะฯ ยังได้มีการไปตรวจสอบบริเวณจุดที่มีการลากในส่วนของอาคาร 8 เหลี่ยม ซึ่งมีการระบุว่า ได้ทำการว่าจ้างอู่ต่อเรือดังกล่าว ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ ทั้งนี้ได้มีการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ อบต.ไม้ขาวตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เช่น การขออนุญาตก่อสร้างโรงงาน เป็นต้น รวมทั้งให้ตรวจสอบพื้นที่ด้วยว่า เป็นพื้นที่ประเภทใด และสามารถขออนุญาตจัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมได้หรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งให้รายงานจังหวัดทราบภายในวันนี้ (18 เม.ย.) หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ดำเนินการต่อเนื่องจากการประชุมในช่วงเช้าของวันเดียวกัน เพื่อติดตามกรณีมีการติดตั้งสิ่งปลูกสร้างลอยน้ำดังกล่าวห่างจากแหลมพันวาจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 39 กิโลเมตร หรือ 21 ไมล์ทะเล โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต จะเร่งดำเนินการแจ้งให้ผู้ก่อสร้างทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างภายใน 30 วัน หากผู้ก่อสร้างไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวต่อไป (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ด้าน พ.ต.อ.คฑาธร คำเที่ยง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ว่าขณะนี้ได้ทำการเพิกถอนวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant) ของชายชาวต่างชาติเจ้าของบ้านลอยน้ำดังกล่าวแล้ว (ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ 90 วัน และมีการต่อวีซ่ามาโดยตลอด วีซ่ายังไม่ขาด) ภายหลังจากที่ได้รับรายงานจากทัพเรือภาค 3 ว่าบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวเข้ามาดำเนินการในลักษณะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ตม.ภูเก็ตจึงได้เสนอขออนุมัติเพิกถอนวีซ่าอยู่ในราชอาณาจักร ซึ่งได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาแล้ว และได้ดำเนินการลงบันทึกเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามตัว

และจากการตรวจสอบเอกสาร ตม.บุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการประสานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตัวบุคคลต่างด้าวรายนี้ต่อไป

 รายงานเพิ่มเติม : ธัญลักษณ์ สากูต