ทภก.ฉลองครบรอบ 32 ปี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อเปิดประเทศ

ภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) จัดงานครบรอบ 32 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานภูเก็ต เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยววีซ่าประเภทพิเศษ (STV)

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 8 ตุลาคม 2563, เวลา 18:13 น.

ภาพ ท่าอากาศยานภูเก็ต

ภาพ ท่าอากาศยานภูเก็ต

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทภก.ทอท.) จัดงานครบรอบ 32 ปี การดำเนินงานท่าอากาศยานภูเก็ต  โดยมี นายมนตรี มงคลดาว รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานท่าอากาศยานภูมิภาค) เป็นประธาน โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  ,เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ สายการบิน และผู้ประกอบการเข้าร่วมงานฯ ณ อาคาร X-Terminal 

เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการตามโครงการพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2  ตามแผนแม่บท ทอท.ปี 2561 โดยได้ก่อสร้างห้องโถงเช็คอินผู้โดยสารกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัด ของผู้โดยสารภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และท่าอากาศยานภูเก็ต ยังคงดำเนินการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานในระยะที่ 2 เพื่อให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี 

ในปีที่ผ่านมาทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ท่าอากาศยานภูเก็ต ถูกระงับการให้บริการท่าอากาศยานตามคำสั่งของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด เป็นเหตุให้ในปีงบประมาณ 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ตมีจำนวนเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 59,647 เที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 48.73 แบ่งเป็นเที่ยวบิน ระหว่างประเทศ 30,222 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 52.38 และเที่ยวบินภายในประเทศ 29,425 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 43.49 มีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 9,089,577 คน ลดลงร้อยละ 49.09 โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 5,126,522 ล้านคน ลดลงร้อยละ 50.34 และผู้โดยสารภายในประเทศ 3,963,055 ล้านคน ลดลงร้อยละ 47.39  

เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ประเทศไทย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ได้ในระดับเป็นที่ยอมรับได้แล้วนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

ซึ่งท่าอากาศยานภูเก็ต ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว โดยมีการประสานงานกับทางจังหวัดภูเก็ต พร้อมจัดตั้งศูนย์ภาวะฉุกเฉิน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อรายงานผลการปฏิบัติให้กับทางจังหวัดรับทราบ พร้อมทั้งกำหนดรูปแบบ กระบวนการ และให้การสนับสนุนพื้นที่เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรองและเก็บสิ่งส่งตรวจโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และสำนักงานป้องกันโรคเขต 11 ในการสนับสนุนห้องเก็บสิ่งส่งตรวจและปฏิบัติการชีวโมเลกุล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการคัดกรอง การนี้ท่าอากาศยานภูเก็ต ยังได้รับการสนับสนุนรถพระราชทานตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย มาประจำการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

นอกจากการดำเนินงานด้านธุรกิจแล้วนั้น ท่าอากาศยานภูเก็ตยังให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไป โดยในปีงบประมาณ 2563 ท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการจ่ายเงินชดเชยผลกระทบด้านเสียง รวมไปถึงการจัดซื้อที่ดินโดยรอบ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเสียงให้แก่ชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 63 อาคารจาก 4 ชุมชน เป็นมูลค่า 1,173,588,182 บาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการสำรวจ เพื่อจ่ายเงินชดเชยอีก 536 อาคาร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามพันธกิจของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) คือการประกอบและส่งเสริมกิจการท่าอากาศยานรวมทั้งดำเนินการกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าอากาศยานโดยคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน

สำหรับประเด็นการเปิดประเทศรับรักท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่าต้องมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างชัดเจนและเข้มงวด โดยทดลองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพก่อน 

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจในรูปแบบพิเศษ หรือ STV ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ เพื่อวางแผนงานและมาตรการรองรับ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งด้านการท่องเที่ยว ภาคธุรกิจโรงแรม จึงต้องศึกษาดูว่าจะเปิดรับได้อย่างไรบ้าง 

อาจเปิดเฉพาะพื้นที่ เฉพาะหาด หรือเป็นพื้นที่จำกัดบริเวณเท่านั้น คล้ายกับ State Quarantine เพื่อให้คนในพื้นที่ไม่ต้องกังวล โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ที่จำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่คนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงจะมีการจัดเทศกาลกินเจ จึงขอให้รัฐบาลเลื่อนการเปิดรับนักท่องเที่ยวออกไปก่อน 

แต่หลังจากวันที่ 25 ตุลาคมเป็นต้นไป ก็ให้มาหารือกันอีกครั้งถึงแนวทางที่เหมาะสม ดังนั้นในที่ประชุม ศบศ.วันนี้ รัฐบาลก็จะหารือเบื้องต้นถึงการเตรียมความพร้อมและวางมาตรการต่างๆ เช่น กำหนดการที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ระยะเวลาการพำนักในไทย รวมถึงที่พักอาศัยที่ต้องติดตามตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่