โดยการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี พ.ศ. 2562 เป็นการดำเนินการตามข้อตกลงระหว่าง ท่าอากาศยานของรัฐภาคี ซึ่งการซ้อมแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานแบบเต็มรูปแบบ (Full Scale Emergency Exercise) ของ ทภก. ในปีงบประมาณ 2562 นั้น ทภก. ได้กำหนดรูปแบบสถานการณ์สมมุติเกี่ยวกับการกู้ภัยอากาศยานอุบัติเหตุทางทะเลโดยจำลองสถานการณ์ว่าอากาศยานแบบ ATR72 มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมจำนวน 30 คน เส้นทาง หาดใหญ่ - ภูเก็ต ที่กำลังจะทำการลงจอด ณ ทภก. แต่เนื่องจากขณะนั้นได้เกิดฝนตกและลมกรรโชกรุนแรงและอากาศยานเกิดปะทะกับกระแสลมที่มีลักษณะพุ่งลงในแนวดิ่งอย่างรุนแรง
ส่งผลให้อากาศยานสูญเสียแรงยกและเสียการทรงตัวตกลงในทะเลห่างจากจุดอ้างอิงสนามบิน 1.8 กิโลเมตร ซึ่งการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินในปีงบประมาณ 2562 นั้น ทภก. ได้ยกประเด็นของอากาศยานอุบัติเหตุในทะเลมาเป็นหัวข้อหลักเนื่องจาก ทภก. เป็นท่าอากาศยานเดียวของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่มีกายภาพของท่าอากาศยานติดต่อกับทะเล จึงมีความจำเป็นในการกำหนดรูปแบบของสถานการณ์ฝึกซ้อมให้สอดคล้องกับกายภาพ และเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับกรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 82 เรื่องระบบการจัดการด้านนิรภัยสนามบินและตามข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) Doc.9137 Airport Service Manual ที่ระบุให้ท่าอากาศยานแต่ละแห่งควรจัดให้มีการฝึกซ้อมตามแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยานอยู่เป็นประจำ
เรืออากาศตรี ธานี ช่วงชู ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปีงบประมาณ 2562 เป็นการดำเนินงานตามมาตรฐานท่าอากาศยานที่ ICAO เป็นผู้กำหนดเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับท่าอากาศยานทั่วโลก อีกทั้งเป็นการสร้างความพร้อมให้กับผู้ปฏิบัติ ได้ทราบถึงกระบวนการจัดการทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินในปีงบประมาณ 2562 นั้น ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหมวดบินเฉพาะกิจ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจการบินท่าอากาศยานภูเก็ต ศูนย์นเรนทร สถานีตำรวจภูธรสาคู สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อุทยานแห่งชาติสิรินาถ และหน่วยงานภายในจังหวัดซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและภาพลักษณ์ที่ดีให้ ทภก. และเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต