โดย สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (1,666,828) รองลงมาคือบราซิล (347,398), รัสเซีย (335,882), สเปน (282,370), สหราชอาณาจักร (257,154) และอิตาลี (229,327)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (98,683) ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร (36,675), อิตาลี (32,735), สเปน (28,678) และฝรั่งเศส (28,332)
รายงานข่าวระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบราซิลพุ่งแซงรัสเซีย ขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐ โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,508 ราย ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 347,398 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 965 ราย ดันยอดรวมแตะที่ 22,013 ราย
บราซิลต้องเผชิญกับความขัดแย้งรุนแรงในเรื่องการรับมือกับไวรัสโควิด-19 โดยเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ได้สั่งปลดนายหลุยซ์ เอนริเก้ แมนเดตต้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกจากตำแหน่ง หลังมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องวิธีการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และแต่งตั้งนายเนลสัน ทีช เข้ารับตำแหน่งแทน
ต่อมาหลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้เพียง 29 วัน นายทีชก็ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งโดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลของการลาออกอย่างเป็นทางการ ขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่าสาเหตุที่นายทีชตัดสินใจลาออกนั้นเป็นเพราะเขาไม่พอใจกับแนวทางรับมือโควิด-19 ของประธานาธิบดีโบลโซนารูที่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ะบาดของไวรัส
(อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก)