วันนี้ (7 เม.ย.) จากกรณีความคืบหน้าที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวเมียนมาร์ ถูกนายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 34 ปี โชเฟอร์แท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีเหลือง ทะเบียน ทย 872 กรุงเทพมหานคร ทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืน เหตุเกิดบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร แขวงและเขตห้วยขวาง เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร นำเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวาง คุมตัวนายคมสรรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 827/2560 ลงวันที่ 2 เมษายน 2560 ในข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ออกจากห้องควบคุมมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณทางเลี่ยงเลียบรฟม. ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงบางกะปิ เขต ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
นายคมสรรณ์ ได้เปิดเผยว่า ในช่วงแรกที่ไม่ยอมรับสารภาพ เนื่องจากต้องการเพียงแค่จะชิงทรัพย์เท่านั้น แต่เกิดความโมโหที่ผู้เสียหายขัดขืนและมาบีบลูกกระเดือก จึงลงมือทำร้ายร่างกายเพื่อที่จะข่มขืน แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากผู้เสียหายมีประจำเดือน จึงให้สำเร็จความใคร่ด้วยปากแทน แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้เสียหายได้ใช้ปากกัดที่อวัยวะเพศ จึงปฎิเสธในข้อหาข่มขืน
นายคมสรรณ์ กล่าวต่อว่า ฝากขอโทษไปยังผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ที่ทำให้เกิดความเสียหาย และขอให้สังคมมองว่าตนเองเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำให้เสียชื่อเสียง
ทั้งนี้นายคมสรรณ์ชี้จุดแรกบริเวณจุดจอดรถแท็กซี่และบังคับให้น.ส.เอ (นามสมมติ) สำเร็จความใคร่ให้ตน จุดที่สอง บริเวณประตูทางออกรฟม. ซึ่งเป็นจุดที่นายคมสรรณ์ขับรถแท็กซี่หลบหนีไป จากนั้นได้พานายคมสรรณ์ไปชี้จุดที่สามบริเวณซอยอุดมเกียรติ ถ.สุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งเป็นจุดที่นายคมสรรณ์รับผู้เสียหาย
ต่อมา เวลาประมาณ 14.05 น. ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง นำตัวนายคมสรรณ์ มาฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
ทั้งนี้นายคมสรรณ์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และชิงทรัพย์