จากกรณีเมื่อช่วงเวลา 03.00 น. วันนี้ (3 ส.ค. 67) พบวาฬเกยตื้นบริเวณป่าชายเลน อ่าวท่าเล บ้านอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต ชาวบ้านได้ช่วยกันดูแลรอจนน้ำขึ้นถึงตัว และตรวจสอบพบว่า มีวาฬทั้งหมด 6 ตัวได้ติดอยู่ที่ป่าโกงกาง และเสียชีวิตแล้ว 1 ตัว
ต่อมา นายเทิดศักดิ์ มิตรวงค์ ประมงอำเภอถลาง, นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทางทะเลหายากสิริธาร นายนิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่บริษัทปัญญาฟาร์ม ศูนย์ฝึกจับและวิชาการเพื่อการอนุรักษ์จระเข้ จำกัด อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นั่งเรือเข้ามาที่อ่าวท่าเลบ้านอ่าวกุ้ง ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางธรรมชาติและฝ่ายฝั่งพร้อมศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทางทะเลหายากสิริธาร ได้เข้ามาที่เกิดเหตุและได้นำวาฬดังกล่าวจำนวน 1 ตัว ที่อยู่ในอาการวิกฤตให้รับการช่วยเหลือให้น้ำตาลกลูโคสและน้ำเกลือ แล้ว ส่วนอีก 5 ตัว ได้ว่ายน้ำวนเวียนอยู่บริเวณหน้าป่าโกงกาง ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เรือต้อนไม่ให้ฝูงวาฬดังกล่าวเข้าฝั่ง
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากหลังจากวาฬเพชฌฆาตเล็กจำนวน 5 ตัว ซึ่งรอดชีวิตจาก 6 ตัว ยังคงว่ายวนเวียนเข้าหาฝั่งตลอดเวลา ทั้งที่เจ้าหน้าที่และชาวประมงใช้เรือหางยาวช่วยกันและต้อนให้ออกไปยังน้ำทะเลลึก แต่ฝูงวาฬเพชฌฆาตเล็กจำนวน 5 ตัวก็ยังดื้อดึงไม่ยอมออกไปยังน้ำลึก ยังคงว่ายกลับวนเวียนเข้าฝั่ง เหมือนลักษณะที่รอคอยวาฬเพชฌฆาตฆาตเล็กที่เสียชีวิตจากกลุ่มไป 1 ตัว เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจ พร้อมกำลังชาวบ้าน ปฏิบัติการวางแผนโดยแบ่งเรือเป็น 3 ลำ และมีจำนวนหนึ่งลงไปในทะเล เพื่อที่จะอุ้มวาฬเพชฌฆาตเล็กทั้ง 5 ตัวขึ้นบนเรือ เนื่องจากในขณะนั้นน้ำทะเลได้ลดลง และหวั่นว่าวาฬเพชฌฆาตเล็กทั้ง 5 ตัวจะเกยหาดหลังจากน้ำลด และจะไปติดป่าโกงกางจนเสียชีวิตเหมือนตัวตัวแรกที่ได้เสียชีวิตไป จากนั้นจึงช่วยกันนำขึ้นเรือประมงทั้ง 3 ลำมุ่งหน้าออกไปกลางทะเลลึกบริเวณร่องน้ำหน้าเกาะนาน ซึ่งใช้เวลานานชั่วโมงเศษจึงสามารถช่วยเหลือนำลงน้ำจนประสบความสำเร็จ ซึ่งหลังจากที่นำวาฬเพชฌฆาตทั้ง 5 ตัว กลับสู่ทะเลลึกได้ทุกคนต่าง ดีใจ หลังจากได้ช่วยชีวิตวาฬเพชฌฆาตฆาตทั้ง 5 ตัวสำเร็จ
ส่วนวาฬเพชฌฆาตเล็กที่ได้เสียชีวิตไป 1 ตัว มีความยาว 2.10 เมตร น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ทางเจ้าหน้าที่ได้มอบให้ทางมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้นำไปยังศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน เพื่อให้สัตวแพทย์ทีมเร่งผ่าพิสูจน์เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
