เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 67 นายกสมาคมโรงแรมไทยและคณะ เข้าพบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการดำเนินงานสืบเนื่องจากกรณีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่ามีสถานประกอบการที่มีการโฆษณา และเปิดให้บริการห้องพักแบบรายวันในลักษณะโรงแรม เก็บค่าเช่าห้องพักเป็นรายวัน แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมและเจ้าของ/ผู้ดูแล ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ โดยตรวจสอบพบเป้าหมาย จำนวน 19 แห่งรวมกว่า 800 ห้อง
โดยสมาคมโรงแรมไทยได้กล่าวชื่นชมกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศไทย การที่โรงแรมได้รับอนุญาตย่อมหมายถึง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เนื่องจากต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กฎหมายโรงแรมกำหนดไว้ เช่น ทางหนีไฟหรือจำนวนถังดับเพลิง เป็นต้น
นายชาดา กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มีการขยายตัวขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจตามลำดับ ธุรกิจโรงแรมที่พักได้เติบโตขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก กระทรวงมหาดไทยซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.โรงแรม ,พรบ.ควบคุมอาคารและกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง จึงมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมดูแลความปลอดภัยของที่พักอาศัยให้แก่นักท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมาได้มีแนวทางให้เพิ่มการกำกับตรวจสอบมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ที่ต้องมีสร้างมาตรฐานในการกำกับและตรวจสอบธุรกิจโรงแรม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในตอนท้ายว่าได้ฝากให้กรมการปกครอง และราชการส่วนภูมิภาคช่วยให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการ หรือนักลงทุนในธุรกิจโรงแรมให้ไปดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง ในส่วนของการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ให้ดำเนินการกำกับและตรวจสอบ โดยดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเสริมสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยว และส่งเสริมให้ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อไป