นายกไม้ขาวแจง โรงแรมดังจำนงบริจาคเงินสร้างถ.สาธารณะ ย้ายที่กั้นกลับเขตโรงแรมแล้ว

ภูเก็ต - จากกรณีที่มีการกล่าวถึงในโซเชียลมีเดียถึงเรื่องกรณีที่ชาวบ้านในตำบลไม้ขาวร้องเรียนว่ามีโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งยึดถนนสาธารณะเป็นทางส่วนบุคคล โดยโพสต์ทูเดย์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. เพจเฟซบุ๊ก “เสียงประชาชน คนภูเก็ต” ออกมาเปิดเผยเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านใน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่า อบต.ในพื้นที่ได้มีการใช่งบประมาณเกือบหนึ่งล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างถนนสาธารณะ แต่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ กลับมีโรงแรมยึดพื้นที่ดังกล่าวเป็นถนนส่วนบุคคล

เปรมกมล เกษรา

วันพุธ ที่ 4 ตุลาคม 2560, เวลา 09:02 น.

ภาพ โพสต์ทูเดย์

ภาพ โพสต์ทูเดย์

รวมถึงมีการตรวจสอบรถที่สัญจรผ่าน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบ

“อยากให้เรื่องนี้เป็นกระแส จะได้มีการตรวจสอบแก้ไข ถ้าไม่งั้นเรื่องมันก็เงียบไปอีก รับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลไม้ขาวว่า ถนนสาธารณะซอยเป๊ะหลี ตอนนี้กลายเป็นถนนส่วนบุคคล เป็นถนนทางเข้าโรงแรมไปแล้ว ก่อนจะเข้าไปต้องผ่านป้อมยาม มีรั้วเหล็กกั้น เช็คคนเข้าออก ทั้งที่ถนนเส้นนี้ ใช้งบประมาณงบประมาณมากถึง 940,000 บาท ของ อบต.ไม้ขาว จ.ภูเก็ต ในการก่อสร้าง ทั้งที่ถนนมีความยาวแค่ 125 เมตร กว้าง 6 เมตร ตกเมตรละ 7,520 บาท แพงไปมั้ย

ชาวบ้าน เล่าว่า ทางโรงแรมได้มีการถอดป้ายโครงการเก็บไว้ อยากให้ทางนายก อบต.ไม้ขาว กองช่าง ออกมาชี้แจงและแก้ไขให้ถูกต้อง หากยังไม่ดำเนินการ อยากจะให้ คสช. ปปช. สตง. และผู้ว่าฯ นรภัทร สั่งการตรวจสอบแก้ไข หาคนผิดที่ปล่อยให้ถนนสาธารณะ กลายเป็นถนนส่วนบุคคลไปได้มาลงโทษ” เพจดังกล่าว ระบุ

ทั้งนี้ภายหลังเรื่องดังกล่าวเผยแพร่ไปในสังคมออนลน์ก็มีคนเข้าแสดงความคิดเห็น เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง และดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

นายสราวุธ สีสาคูคาม นายกอบต.ไม้ขาว ได้เปิดเผยว่า “เดิมทีซอยเป๊ะหลีเส้นนี้เป็นทางสาธารนะ ต่อมาเมื่อปี 57 ทางโรงแรมแกรนด์ เวสแซนด์ ได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ขอยืนความจำนงบริจาคจำนวน 940,000 บาทเพื่อใช้สร้างถนนที่มีความกว้าง 60 เมตร ยาว 125 เมตรซึ่งเป็นทางเชื่อมจากถนนไม้ขาวเข้าสู่ซอยเป๊ะหลีเพื่อเข้าสู้เขตโรงแรม”

“จากนั้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทชกต่อยระหว่างรปภ.กับพนักงานขับแท็กซี่ (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ทางโรงแรมจึงได้นำที่กั้นมากั้นบริเวณกึ่งกลางของถนนเส้นดังกล่าวและห้ามมิให้พนักงานขับรถแท็กซี่เข้าไปรับแขกในโรงแรม พร้อมทั้งตรวจสอบบัตรของผู้ขับขี่รถที่จะเข้าโรงแรมอย่างละเอียด จึงเป็นที่มาของการร้องเรียนดังกล่าว”

“ระหว่างถนนเส้นนั้นไม่มีบ้านเรือนของประชาชน จึงไม่เกิดความเดือดร้อนกับใคร นอกจากผู้ให้บริการแท็กซี่ที่ไม่สามารถเข้าไปรับแขกได้ เนื่องจากปัญหาทะเลาะวิวาทที่ผ่านมา”

“เมื่อเกิดการร้องเรียน ทางอบต.ก็ได้เดินทางเข้าไปเจรจากับโรงแรมและได้ตกลงกันว่าทางโรงแรมจะย้ายที่กั้นมาอยู่ในจุดที่เป็นเขตของโรงแรม ซึ่งไม่ได้ล้ำเกินเข้าไปในซอยเป๊ะหลีแต่อย่างใด”

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่