บรรยากาศในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ของเที่ยวบินปฐมฤกษ์นั้นเป็นไปอย่างคึกคัก สำนักข่าวทั้งจากประเทศไทยและสื่อชั้นนำของโลกหลายสำนัก พร้อมใจกันเข้ามาทำข่าวและสัมภาษณ์ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตตามนโยบายแซนด์บ็อกซ์ ก่อนที่จะเดินทางออกนอกจังหวัดภูเก็ตได้ในระยะเวลาที่กำหนดคือ 14 วัน กันอย่างเนืองแน่น
ซึ่งในวันเดียวกันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดภูเก็ตตั้งแต่ช่วงเช้า และให้เกียรติต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเดินทางมากับสายการบิน Singapore Airlines จำนวน 51 คน ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ในเวลา 17.10 น. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ปรบมือทักทายนักท่องเที่ยว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการเป็นเจ้าบ้านเจ้าภาพที่ดี ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สู่การท่องเที่ยวอย่างมีความสุขและปลอดภัยที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ในขณะเดียวกันอีกด้านของจังหวัดภูเก็ต ที่ยังไม่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็คือ "สถานบันเทิง" เนื่องจากสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ในจังหวัดภูเก็ตยังอยู่ภายใต้คำสั่งให้ปิดบริการ และคำสั่งมีผลอยู่ตามคำสั่งเดิมจนกว่าจะมีประกาศ นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์ จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับ ข่าวภูเก็ต วันนี้ (2 ก.ค.)
- ตัวแทนคนกลางคืนหลายสิบยื่นหนังสือผู้ว่าภูเก็ต ขอความช่วยเหลือผลกระทบโควิด-19
- ภูเก็ตผ่อนคลายเดินทางเข้าจังหวัด ให้เปิดสถานที่หลายแห่ง ผับบาร์ยังปิด ห้ามจำหน่ายสุรา
สำหรับบรรยากาศทั่วไปของถนนบางลา ในวันแรกของการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็ยังคงเงียบเหงา เศร้า และมืดมิด เหมือนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หน้าร้านส่วนใหญ่ บาร์ สถานบันเทิง แม้แต่ร้านสะดวกซื้อยังคงปิดสนิท มีเพียงประชากรแมวที่ดูแล้วน่าจะเป็นความคึกคักเดียวของบางลาในขณะนี้ บางตัวท้องโย้ ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าแมวเหล่านี้จะได้รับการดูแลจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหากปล่อยปละละเลยแน่นอนว่าจำนวนของแมวจรจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเป็นอย่างมาก คำถามคือท้องถิ่นจะจัดการอย่างไร เมื่อวันหนึ่งที่ธุรกิจบันเทิงภายในถนนบางลากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
จากการเดินสำรวจในพื้นที่ถนนบางลาและบริเวณรอบ ๆ หลายคนไม่พร้อมที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ และได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสเพียงใดจากการมีอยู่ของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม พี่สาวผู้หญิงในวัย 60 หนึ่งได้ผู้ได้รับผลกระทบรายได้หดหายมานับปีคือ เล่าให้ ข่าวภูเก็ต ฟังว่า เธอเคยทำงานเป็นแม่บ้านของเกสเฮ้าส์เล็ก ๆ ในพื้นที่ป่าตอง ตอนนี้ตกงานไม่มีรายได้มานานนับปี แต่โชคยังดีที่เจ้านายยังให้พี่พักและอาหารประทังชีวิต
“ไม่ได้ทำงานมาเป็นปีแล้ว ตอนนี้ก็หางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำ ถ้ามีงานทำความสะอาดเราก็รับทำหมด แต่งานมันก็ไม่ค่อยจะมี”
ถึงกระนั้นเธอก็ยังแบ่งที่พักของเธอให้เพื่อนร่วมอาชีพที่เธอรู้จักได้มีที่ซุกหัวนอน และเจียดเงินเก็บที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดให้เพื่อน เพียงแค่หวังว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ เพื่อรอวันที่นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวป่าตอง และมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้อีกครั้ง
“ถ้าเราพอช่วยคนอื่นได้เราก็ช่วย เราไม่สามารถปล่อยให้เขาเป็นคนเร่ร่อนได้ วันหนึ่งเราอาจจะเดือดร้อนและเขาอาจจะยื่นมือมาช่วยเราบ้างก็ได้ หรืออย่างน้อยในวันนี้แค่เราได้ช่วยเขาเราก็สบายใจแล้ว” พี่สาวกล่าว
พนักงานร้านนวดหน้าหาดรายหนึ่งเล่าว่า รายได้ที่เคยได้หลักพันต่อวัน หายไปเป็นศูนย์ จนกลายเป็นติดลบ เงินเก็บที่เคยมีทองหยองที่เคยซื้อเก็บไว้ ต้องทยอยขายเอาเงินออกมาใช้จ่าย
“ไม่ได้นวดมา 3 อาทิตย์แล้ว ไม่มีลูกค้าเลย เมื่อก่อนมีลูกค้าประจำมาจากประเทศนู้นประเทศนี้มานวดอย่างน้อย ๆ ก็ครั้งละ 500 บาท แถมได้ทิปอีก ตอนนี้คือทองกี่บาทกี่บาทที่มีก็เอามาขายกินหมดแล้ว”
และเมื่อใดที่ท้องถิ่นเปิดให้ลงทะเบียนรับเครื่องอุปโภคบริโภค เธอคือหนึ่งในคนอีกจำนวนมากที่จะไม่พลาดโอกาส และหากมีการแบ่งปันแจกจ่ายอาหารที่ไหนเธอก็จะไปต่อแถวรอรับ เพราะมันเป็นหนทางเพียงไม่กี่คนทางที่เธอจะสู้ชีวิตให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน
“ก็หวังว่าแซนด์บ็อกซ์จะช่วยให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตบ้าง ให้เราได้พอมีรายได้บ้าง แค่วันละคนสองคนก็ยังดี” เธอกล่าว
