จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 มิ.ย.62) พ.ต.ท.สิทธิพล เจ้ยชุม สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง ปฏิบัติหน้าที่ พงส.เวร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ป่าตอง ว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต ปากทางเข้าโรงแรมป่าตองทาวเวอร์ ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง ส่วนคนกลุ่มคนร้ายนั้นประมาณ 4-5 คนได้หลบหนีไปแล้ว (อ่านเพิ่มเเติม คลิก)
ต่อมา พ.ต.อ.อโณทัย เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาทกันระหว่างภรรยาคนขับรถมอไซด์รับจ้าง กับคนขับรถแท็กซี่เรื่องไปเตือนว่า อย่าเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ฝ่ายสามีได้ยินไม่พอใจเข้ามาชกต่อยและใช้ไม้ไล่ตีคนขับแท็กซี่ จากนั้นจึงตามเพื่อนมาช่วยและเกิดการตะลุมบอนกันขึ้นและยิงกันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อเพราะอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอออกหมายจับ (อ่านเพิ่มเเติม คลิก)
กระทั่งเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เวลา 21.30 น. ซึ่งเป็นช่วงค่ำในวันเกิดเหตุ นายฉัตรชัย ดำเชื้อ หรือบังเลาะ ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากทนแรงกดดันไม่ไหว (อ่านเพิ่มเเติม คลิก) นอกจากบังเลาะแล้วผู้ร่วมก่อเหตุยิงนายปัญญา กิ่งจำปา อายุ 45 ปี อีกรายได้เข้ามอบตัว คือนายณรงค์ เดินช่วยกิจ หรือตั้ม อาชีพขับรถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งเป็นผู้ที่มีเรื่องทะเลาะกับผู้ตาย ก่อนที่จะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมอาชีพ และเกิดเป็นเหตุบานปลาย จนถึงขั้นมีการตายเกิดขึ้นดังกล่าว
บังเลาะยอมรับสารภาพว่าตนเป็นคนยิงนายปัญญาจริง พร้อมมอบอาวุธปืนของกลาง กับ พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ พุกบัวขาว รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง ร.ท.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารราบที่ 25 (ชป.รส.ร.25) นายพัฒนพงศ์ เหนือคลอง ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต หลังถูกเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทหารและฝ่ายปกครองกดดันอย่างหนัก อีกทั้งสำนึกในความผิดจึงได้ขอเข้ามอบตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมสอบปากคำ
นายฉัตรชัย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีเจตนาจะให้เกิดเรื่องหรือมีผู้เสียชีวิต เบื้องต้นตนตั้งใจเข้าไปห้ามปรามไม่ให้มีเรื่องทะเลาะกัน แต่พอไปถึงกลับถูกผู้เสียชีวิตใช้ท่อนเหล็กไล่ทำร้าย โดยใช้เหล็กตีเข้าที่ใบหน้าจนล้มคว่ำไป และจากเหตุที่ผู้ตายทำร้ายตนก่อนจึงเกิดอารมณ์โมโหขาดสติและตอบโต้ไป รวมทั้งอยากขอโทษผู้ตายและครอบครัวว่า ตนไม่ได้ตั้งใจยิงผู้ตายเพียงแต่ยิงสกัดให้หยุดเท่านั้น
พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุชกต่อยกันคือนายณรงค์กับนายปัญญาเนื่องจากมีการโต้เถียงกัน และนายณรงค์ได้ไปตามนายฉัตรชัย ซึ่งมีการพกพาอาวุธปืนมาด้วย เมื่อมาถึงก็ได้พยายามห้ามปราม แต่กลับถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บก่อน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกพามายิงไปที่ผู้เสียชีวิต 1 นัด หลังเกิดเหตุก็ได้หลบหนีไป แต่ต่อมาได้รู้สึกนึกผิด จึงได้มีการติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอมอบตัว อันเนื่องมาจากถูกกดดันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือปกครอง ทหารและตำรวจ สำหรับผู้ก่อเหตุรายอื่น จากการสอบสวนเหลืออีก 1 คน ข้อกล่าวหาเบื้องต้น คือ “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
ผกก.สภ.ป่าตอง อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ คือ ฝ่ายผู้ก่อเหตุแจ้งว่าได้เข้าไปพูดจาตักเตือนคนทางฝั่งของผู้เสียชีวิต เนื่องจากมีพฤติกรรมคล้ายกับจะไปตบทรัพย์นักท่องเที่ยว จึงเกิดความไม่พอใจกันขึ้น จนนำมาสู่การทะเลาะวิวาทและเสียชีวิตในที่สุด โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตจากการสอบสวน ทราบว่าไม่ใช่หัวหน้าวินและไม่ได้เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างแต่อย่างใด ผู้ตายมีอาชีพหาแขกหรือเชียร์แขก
ทางด้าน พ.ต.อ.อารยะพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการสอบปากคำนายตั้ม หรือนายณรงค์ฯ ทราบว่า ผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุรู้จักกัน แต่ไม่สนิทสนมกัน เนื่องจากมีวินรถตุ๊กตุ๊กอยู่ตรงข้ามกัน และเห็นพฤติกรรมของสาวประเภทสองที่ผู้เสียชีวิตดูแลไปหากินกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการล่อลวงตบทรัพย์ จึงได้เข้าไปตักเตือนด้วยความหวังดี เนื่องจากการหลอกลวงหรือตบทรัพย์นักท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ไม่ดี ทำให้ฝ่ายของผู้เสียชีวิตไม่พอใจ จนเกิดการชกต่อยและใช้อาวุธยิงกันจนเสียชีวิตดังกล่าว”
พ.ต.อ.อโณทัย เน้นย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเน้นย้ำว่า ได้มีการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อดูแลความปลอดภัยและนักท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างเต็มที่ “ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นใจว่า มีความพร้อมในการดูแลคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุทะเลาะกันเฉพาะหน้า จนนำไปสู่เหตุการณ์ดังกล่าว”
