บัสเฉี่ยวชนจยย.ล้ม ล้อทับเด็กหญิงเมียนมา 4 เดือนดับอนาถ แม่สาหัส

ภูเก็ต - รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวหักหลบรถที่เลี้ยวกลับรถอยู่ด้านหน้าก่อนเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาล้มลงล้อรถทับศีรษะเด็ก 4 เดือนเสียชีวิตคาที่ ส่วนแม่อาการสาหัส โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้ (25 พ.ย. 61) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านนายเหมือง ถนนภูเก็ต ขาเข้าสะพานหิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2561, เวลา 13:51 น.

ภาพ มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ภาพ มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.หญิง วิภาวรรณ วัธนเงินทนง รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ที่เกิดเหตุเป็นถนนภูเก็ตมุ่งหน้าสู่สะพานหินบริเวณหน้าร้านดังกล่าว พบรถบัส รับ-ส่งนักท่องเที่ยวป้ายทะเบียนนครปฐม ซึ่งเป็นของ บ.บารมีรุ่งโรจน์ ทัวร์ จำกัด จอดอยู่กลางถนน และห่างออกไปเล็กน้อยที่ท้ายรถบัสริมถนนพบศพเด็กหญิง สัญชาติเมียนมา อายุ 4 เดือน ใกล้กันพบนางคายตาซินทู สัญชาติเมียนมา อายุ 24 ปี อาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่ให้การปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถบัสคันดังกล่าวได้ขับมาตามถนน ซึ่งอยู่ช่องจราจรด้านขวา ส่วนรถจักรยานยนต์ ขับตามหลังมาอยู่ช่องจราจรด้านซ้าย เมื่อรถบัสขับมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์กำลังเลี้ยวกลับรถอยู่ ทำให้คนขับรถบัสได้หักหลบมาทางช่องจราจรด้านซ้าย ระหว่างนั้นได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณีขับตามมาทำให้รถบัสเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้มลงส่งผลให้ล้อหลังของรถบัสไปทับศีรษะของเด็กเสียชีวิต ส่วนแม่เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุคนขับรถบัสได้เดินทางไปรอมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เนื่องจากเกรงว่าจะมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเพิ่มเติมคนขับรถบัส และจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ท.หญิง วิภาวรรณ กล่าวกับข่าวภูเก็ต ว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และยังไม่ได้ตั้งข้อหาคนขับรถบัสแต่อย่างใด เนื่องจากต้องมีการสอบปากคำเพิ่มและรอผลจากทางโรงพยาบาล ในขณะที่นางคายตาซินทูยังคงรักษษตัวอยู่ในโรงพยาบาล

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่