บุกจับเจ้าของทวิตเตอร์ หลานของผม สารภาพถ่ายแฟนวัย 20 ใส่ชุดนักเรียน

จันทบุรี - ตำรวจบุกจับเจ้าของทวิตเตอร์ หลานของผม สารภาพถ่ายภาพแฟนวัย 20 แต่งชุดนักเรียน โดยบอกกับแฟนว่าจะเก็บไว้ดูเล่น แต่กลับนำมาเผยแพร่สร้างเรื่องว่าเป็นหลาน

โพสต์ทูเดย์

วันพฤหัสบดี ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563, เวลา 10:09 น.

จากกรณีเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 ได้เกิดกระแสแฮชแท็ก “หลานของผม” ในทวิตเตอร์ เนื่องจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้พบผู้ใช้ที่มีชื่อแอคเคาท์ว่า @LovePhrik ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดิโอในลักษณะว่า แอบถ่ายหลานตัวเองใส่ชุดนักเรียน ทั้งในขณะนอนหลับ ขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า และขณะอาบน้ำจำนวนหลายโพสต์ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่าจะล่วงละเมิดทางเพศหลานและจะถ่ายคลิปวิดีโอมาเผยแพร่นั้น

คณะทำงานชุดปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทางอินเตอร์เน็ต หรือ ไทแคค (Thailand Internet Crimes Against Children : TICAC) ได้ดำเนินการสืบสวนจนได้ข้อมูลว่าทวิตเตอร์ชื่อ "หลานของผม" มีอยู่ 2 บัญชี ที่มีชื่อผู้ใช้ หรือ แอคเคาท์ แตกต่างกัน คือ @LovePhrik และ @Larnkhongpom จนเมื่อวันที่ 7 ก.พ.2563 ได้เข้าตรวจค้นจับกุมจำนวน 2 เป้าหมายประกอบ คือ จับผู้ต้องหาตัวจริงที่ใช้แอคเคาท์ชื่อ @LovePhrik ได้ที่จังหวัดจันทบุรี และจับคนทำเลียนแบบที่ใช้ชื่อแอคเคาท์ @Larnkhongpom ได้ที่ในกรุงเทพมหานคร

เจ้าของทวิตเตอร์ "หลานของผม" ตัวจริงยอมรับว่า ได้ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเล่นกับแฟนสาวอายุ 20 ปีแต่งคอสชุดนักเรียน โดยบอกแฟนว่าจะเก็บไว้ดูเอง แต่เอามาสร้างสตอรี่ขึ้นมาในทวิตเตอร์เพื่อสร้างกระแส โดยแฟนสาวไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้มีการแอบถ่ายหลานแต่อย่างใด ส่วนเจ้าของ Twitter "หลานของผม" ที่เลียนแบบ ยอมรับว่าเมื่อเห็นว่า แฮชแทกหลานของผม มีชื่อเสียงขึ้นมาจึงทำเลียนแบบ

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีผู้ถ่ายคลิปและเจ้าของทวิตเตอร์ หลานของผม ในข้อหา“นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” ต่อไป (ความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

ขณะที่เจ้าของทวิตเตอร์ที่ทำเลียนแบบ ถูกดำเนินคดีในข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆมีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้”ต่อไป(ความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯมาตรา14(4) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

นอกจากนี้ยังดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครอง,ค้าหรือประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก (ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ระวางโทษจำคุก 3 ถึง 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) เนื่องจากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา สื่อลามกอนาจารเด็กอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการเปิดแอคเคาท์ทวิตเตอร์ ที่มีลักษณะประกาศขายสื่อลามกอนาจารเด็กอีกด้วย

(อ่านโพสต์ทูเดย์ คลิก)

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่