ปกครองเมืองตั้งจุดตรวจสกัดตรวจปัสสาวะ 85 ชายผ่านสะพานท่าเทียบเรือราไวย์ ผลบวก 13 

ภูเก็ต - นายอำเภอเมืองภูเก็ต สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด เพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาตามโครงการช่วยเหลือผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัด โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันศุกร์ ที่ 28 เมษายน 2566, เวลา 11:11 น.

ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายวิเชฐ สูยะนันท์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง มอบหมายให้ นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง /เจ้าพนักงาน ปปส. หมายเลข 583290 ดำเนินการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด พร้อมด้วย กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านตำบลราไวย์ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านตำบลฉลอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชรบ. จำนวน 40 นาย ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านชาวไทยใหม่ หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์ และตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ตรวจค้นยานพาหนะ สุ่มตรวจปัสสาวะบุคคลต้องสงสัย กลุ่มเสี่ยง ที่สัญจรไปมาบริเวณสะพานท่าเทียบเรือราไวย์ หมู่ที่ 2 ตำบลราไวย์

เจ้าหน้าที่ทำการตรวจปัสสาวะทั้งสิ้น 85 ราย (ชาย) พบผลปัสสาวะเป็นบวก จำนวน 13 ราย และได้ทำการบันทึกตามแบบบันทึกการตรวจหรือทดสอบสารเสพติดในร่างกายการตรวจสอบพฤติการณ์ และสอบถามความสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา (แบบ ปยส. 115) จำนวน 13 ราย ได้แจ้งให้ผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาทราบถึงหลักเกณฑ์

กรณีสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจะต้องปฏิบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกำหนด จนได้รับการรับรองเป็นหนังสือว่าเป็นผู้ผ่านการบำบัดรักษาเป็นที่น่าพอใจจากหัวหน้าสถานพยาบาลยาเสพติด หรือสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด และได้นำตัวผู้เสพหรือผู้ป่วย จำนวน 13 คน ส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษาตามโครงการช่วยเหลือผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมจังหวัดโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 10 พฤษภาคม ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมทางพระพุทธศาสนา วัดเชิงทะเล ต่อไป

ในกรณีที่ไม่ไปเข้ารับการบำบัดรักษา หลบหนี หรือไม่ได้รับการรับรองเป็นหนังสือว่าเป็นผู้ผ่านการบำบัดรักษาเป็นที่น่าพอใจ หากเจ้าพนักงานตรวจพบว่าเสพหรือครอบครองเพื่อเสพอีก จะไม่สามารถสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในครั้งต่อไปได้ และจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่