ประมงจังหวัดร่วม สส.ภูเก็ต ทำลายปลาหมอคางดำจากสมุทรสาคร หวั่นแพร่พันธุ์ในภูเก็ต

ภูเก็ต - ประมงจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ สส.จังหวัดภูเก็ต ทำลายปลาหมอคางดำ จากจังหวัดสมุทรสาคร หวั่นแพร่พันธุ์ในจังหวัดภูเก็ต จากกรณีที่มีการโพสต์ขายใน กลุ่มขาย กับข้าวขาย ของกิน ภูเก็ต ได้มีการนำภาพปลาหมอคางดำออกสื่อโซเชียล

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 29 กรกฎาคม 2567, เวลา 17:30 น.

ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ 29 ก.ค.67 เพจขยะมรสุม MONSOOGARBAGE Thailand ได้โพสต์ ระบุว่า ปลาหมอคางดำที่เอาเข้ามาภูเก็ต ระวังไข่หลุดลงท่อน้ำนะครับ #เป็นห่วง และต่อมาโพสต์ต่อว่าโอเค ผมเหมาปลาหมอคางดำ ที่ภูเก็ตทำลายทิ้งหมดครับ เหลือแค่ไปเอามา ใครช่วยได้บ้างครับ ช่วยจัดการหน่อย แถวๆสามกองไม่ต้องว่าอะไรน้องเค้านะผมคุยกันแล้ว เดี๋ยวมาช่วยกันระวัง

จากนั้นทางเพจได้ประสาน นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.เขต 2 จังหวัดภูเก็ต เพื่อมารับปลาหมอคางดำที่เหมามาทั้งหมดไปทำลาย ต่อมาทางนายเฉลิมพงศ์นัดรับปลาหมอคางดำแล้วนำมายังประมงภูเก็ตพบกับ นายประยุธ รัตนวรรณ ประมงจังหวัดภูเก็ต และปรึกษาร่วมกันสรุปขุดหลุมฝังทั้งหมด

นายประยุธ เผยว่า ได้รับการประสานจาก สส.แซม สส.จังหวัดภูเก็ตว่ามีการนำปลาหมอคางดำขายผ่านเพจที่จังหวัดภูเก็ต และแจ้งความเป็นห่วงมาว่าการที่เอาปลาหมอคางดำมาขายกลัวว่าจะมีลูกปลาที่อยู่ในปากหรือตัวที่ไม่ตายติดมาด้วย ก็เลยประสานกับเจ้าหน้าที่และมีความคิดเห็นร่วมกันว่าควรจะนำปลาพวกนี้ฝังกลบทำลายเสีย เพราะว่ากลัวที่ตัวยังไม่ตายรอดสู่แหล่งน้ำ จะทำให้เกิดความเสียหายกับระบบนิเวศ จึงใช้หลักป้องกันจำนวนที่รับซื้อมาทั้งหมด สส.ซื้อมาทั้งหมด 20 กิโลกรัม ประมาณ 3-4 ตัวโลถือว่าเป็นปลาหมอคางดำซึ่งมีขนาดใหญ่

“จากการสอบถามผู้ที่สั่งเข้ามาทราบว่าสั่งผ่านมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นคนกลาง เราไม่เผาทำลาย อยากจะฝังเอาไว้ เผื่อว่าเหตุการณ์ครั้งหน้าอาจจะต้องมีการพิสูจน์อย่างใดอย่างหนึ่งก็จะสามารถนำซากขึ้นมาพิสูจน์ได้” นายประยุธ กล่าว

HeadStart International School Phuket

“อยากจะฝากเตือนพ่อค้าแม่ค้าพี่น้องประชาชน ตามที่เราได้เห็นจากหน้าข่าวที่เราเจอปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำชนิดนี้ที่ระบาดอยู่แถบภาคกลางและฝั่งอ่าวไทยทั้งแถบทั้งหมด 16 จังหวัด ส่วนฝั่งทะเลอันดามันจังหวัดภูเก็ตบ้านเรายังไม่มีการระบาด เพราะฉะนั้นใช้วิธีการป้องกันไว้ดีที่สุด ไม่นำสัตว์น้ำที่มีการสุ่มเสี่ยงที่มีชีวิต หรือที่ตายแล้วก็มีความเสี่ยงอาจจะติดลูกหรือตัวที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่และรอดเข้ามา เพราะฉะนั้นอยากจะแนะนำว่าอย่านำเข้ามาเลยเพราะจะทำให้เสียระบบนิเวศบ้านเรา”

“ถ้ามีความประสงค์ที่จะนำเข้าจริง ๆ อยากจะให้นำเข้าในส่วนของปลาหมอคางดำที่มีการแปรรูปแล้ว เช่น ทำปลาแดดเดียว หรือหมักเกลือทำปลาร้า ทำผลิตผลิตภัณฑ์ แบบนี้ก็จะปลอดภัยต่อระบบนิเวศ” นายประยุธ เน้นย้ำ

ทางด้านเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.เขต 2 จังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า มีกลุ่มเพจขยะมรสุมไปเจอเพจกลุ่มซื้อขายอาหารในจังหวัดภูเก็ต ไปพบผู้ประกอบการรายหนึ่งสั่งปลาหมอคางดำมาจำหน่ายที่จังหวัดภูเก็ตในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่งทางกลุ่มขยะมรสุมได้พบเห็นแล้วได้ไปซื้อมาส่งมอบให้กับตน วันนี้ตนได้ไปรับของมาและส่งมอบให้กับประมงจังหวัดภูเก็ต เพื่อทำการฝังกลบหรือทำลายปลาหมอคางดำ

“อยากจะประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนจังหวัดภูเก็ตว่า อย่าเพิ่งสั่งปลาหมอคางดำมาบริโภคในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากว่าเราไม่ทราบว่าในปากของปลาหมออาจจะมีไข่หรือมีตัวของลูก เมื่อท่านผ่าแล้วล้างอาจทำให้หลุดรอดลงไปแหล่งน้ำธรรมชาติ และเกิดการแพร่ระบาดตามที่เห็นในภาพข่าว อยากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องชาวภูเก็ตว่าอย่านำเข้าปลาหมอคางดำเลย ขอฝากเตือนร้านผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต” สส.เฉลิมพงศ์ กล่าว

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่