หลังรับแจ้งจึงรายงาน พ.ต.อ.สลาน สันติศาสนกุล ผกก.สาคู และเดินทางไปตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหานี้ ได้โดยสารกับสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบิน FD 3092 ภูเก็ต-ดอนเมือง เพื่อกลับกรุงเทพฯ ขณะเครื่องออกจากหลุมจอดที่ 1 วิ่งแท็กซี่เพื่อเตรียมเข้าช่องทางวิ่ง ระหว่างผู้ต้องหานำกระเป๋าสะพายสีดำขึ้นบนชั้นวางภายในเครื่อง ได้พูดกับพนักงานประจำเครื่องว่า “ระวังระเบิดในกระเป๋า” ทางกัปตันของสายการบินจึงแจ้งมายังภาคพื้น พร้อมนำเครื่องเข้าจอดหลุมจอดที่ 39 เพื่อนำผู้โดยสารและสัมภาระลงจากเครื่องเพื่อดำเนินตรวจสอบ ผลการตรวจสอบผู้โดยสารและสัมภาระทั้งหมดของ EOD ท่าอากาศยานภูเก็ต ไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด
ทางท่าอากาศยานภูเก็ต และสายการบินแอร์เอเชีย จะได้ดำเนินการพาผู้โดยสารที่เหลือออกเดินทางตามปกติ ในส่วนของผู้ต้องหาได้ดำเนินการจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ได้แถลงชี้แจงเหตุผู้โดยสารพูดคำต้องห้ามบนเที่ยวบิน FD3092 ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ และมาตรฐาน ICAO อย่างเคร่งครัด กรณีเกิดเหตุผู้โดยสารพูดคำต้องห้ามเกี่ยวกับการขู่วางระเบิด บนอากาศยานเที่ยวบิน FD3092 ของสายการบินแอร์เอเชีย
เมื่อเวลาประมาณ 15.17 น. ทภก. ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินว่า มีผู้โดยสารชาวไทยรายหนึ่งซึ่งอยู่บนเครื่องบินแบบ Airbus A321 ได้ขู่วางระเบิดต่อพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ของสายการบิน AirAsia เที่ยวบินที่ FD3092 เส้นทางบินภูเก็ต (HKT) - ดอนเมือง (DMK) นักบินจึงดำเนินการแจ้งเหตุไปยังหอบังคับการบิน เพื่อขอนำอากาศยานกลับเข้าจอด ณ หลุมจอดอากาศยานหมายเลข 99 (Isolate Parking) ในเที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 200 คน
ต่อมาเวลา 15.48 น. ทภก. ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุ โดยตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Operation Center – EOC) เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ โดยดำเนินการปิดล้อมพื้นที่โดยรอบอากาศยานในรัศมีอย่างน้อย 100 เมตร พร้อมกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ การอพยพผู้โดยสาร ลูกเรือ ลงจากอากาศยาน หลังจากนั้นนำผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระติดตัวก่อนเข้าสู่พื้นที่พักคอยผู้โดยสาร
โดย ทภก.ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกพร้อมบริการน้ำดื่ม และสายการบินไทยแอร์เอเชียได้จัดอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารทุกท่านในเหตุการณ์นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำลายวัตถุระเบิด ทภก. เข้าตรวจค้นอากาศยาน สัมภาระ สินค้า และไปรษณียภัณฑ์ และไปรษณียภัณฑ์ทุกชิ้น ไม่พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยตามคำขู่
หลังจากขั้นตอนตรวจค้นผู้โดยสาร สัมภาระติดตัวอากาศยาน และสัมภาระบรรทุกเสร็จสิ้น ก็จะนำผู้โดยสารมาชี้สัมภาระและสิ่งของของตน ซึ่งปรากฏว่าสัมภาระทุกชิ้นมีเจ้าของ ไม่ปรากฏวัตถุระเบิด หรือวัตถุอันตรายอื่นใด ทภก.จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนเผชิญเหตุเมื่อ เวลา 19.21 น. และได้นำตัวผู้กระทำผิดส่งให้สถานีตำรวจภูธรสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ดำเนินคดีต่อไป
