ผงะ!ลุงสัปเหร่อดับคาห้องงัดประตูเจอการบูชาศพหญิง 44 นับ 10 ปี คอหวยแห่ซื้ออายุติดข้างโลง 

ภูเก็ต - เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (14 ก.พ.) พ.ต.ต.อัครเดช พงศ์พรหม สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งว่ามีเหตุคนเสียชีวิตที่ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ (หลังเก่า) ภายในวัดโฆษิตวิหาร ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563, เวลา 14:27 น.

หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ที่เกิดเหตุอยู่ภายในวัดโฆษิตวิหาร เจ้าหน้าที่เห็นประชาชนมุงดูอยู่จำนวนมาก เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่าห้องโถงขนาดใหญ่ มีการกั้นกระดาษอัดทำเป็นห้องเล็กๆ 1 ห้อง บริเวณหน้าห้องมีกุมารทองอยู่ในพานสีทองจำนวน 2 ตน พร้อมรถเด็กเล่น 3 คัน มีพระพุทธรูปวางอยู่บนโต๊ะบูชา 2 องค์ บริเวณประตูห้องพบตุ๊กตาตกแต่งเหมือนชุดของชาวภาคเหนือ 3 ตัว

นอกจากนั้นภายในอาคารดังกล่าวพบโลงศพสภาพเก่า มีรอยผุพัง บริเวณด้านข้างของโลงมีการเขียนชื่อคนตาย ระบุชื่อคือ นางสาวเสาวลักษณ์ สามทอง อายุ 44 ปี บนโลงศพมีดอกไม้แห้งวางอยู่ ติดกับโลงศพมีรูปถ่ายของผู้ตายวางอยู่บนพวงหรีดดอกไม้แห้ง มีจาน 1 ใบในจานมีถ้วยขนาดเล็ก 4 ใบ และขวดน้ำจำนวน 2 ขวด วางติดอยู่กับรูปถ่าย บริเวณหน้าโลงศพมีกระถางธูปซึ่งมีธูปที่ถูกจุดปักอยู่จนเต็ม ตะเกียงน้ำมันก๊าด เทียนไข สภาพเหมือนเพิ่งจุด างอยู่หน้าโลงศพ

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในห้องที่สร้างขึ้นดังกล่าวพบพัดลมตั้งโต๊ะเปิดอยู่ 1 ตัว บนพื้นห้องพบศพ นายมังกร ภมรมาศ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 6 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต สภาพศพนอนหงาย ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นแบบสามส่วน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำศพชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป

นายวิโรจน์ เบาโพธิ์ อายุ 37 ปี มัคนายกของวัด กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายเป็นอดีตสัปเหร่อของวัดโฆษิตวิหาร แต่เนื่องจากร่างกายไม่แข็งแรง จึงได้มาทำหน้าที่ดับธาตุ เก็บกระดูก หลังจากทำฌาปนกิจศพก่อนเก็บอัฐิ ก่อนเกิดเหตุเช้าวันนี้ตนได้เดินทางมาเรียกผู้ตาย แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ จากนั้นได้เดินไปเคาะหน้าต่างตรงที่ผู้ตายนอนอยู่ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม จึงโทรหาสัปเหร่อและคนในวัดให้มาช่วยกันเรียก เมื่อหลายคนมาพร้อมกัน จึงตัดสินใจพังประตูและพบว่าเสียชีวิตแล้ว

"ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าลุงนอนเฝ้าศพที่อยู่ในโลงศพนั้นเป็นเรื่องจริง คุณลุงมังกรได้นอนเฝ้าศพนี้มานานแล้ว ซึ่งท่านเฝ้าศพนี้มาก่อนที่จะมาทำหน้าที่มัคนายกในวัด แต่สาเหตุใดที่ต้องเฝ้าศพนี้นั้นไม่ทราบสาเหตุ ทราบเพียงว่าท่านนอนเฝ้าศพนี้อยู่ด้วยจริง และได้สั่งเสียไว้ว่าถ้าลุงมังกรตายไปให้มาดูท่านด้วย ไม่ต้องให้พระสวด ให้สัปเหร่อเผาเลย แล้วเอาอัฐิฝังหลังเมรุ ซึ่งสิ่งที่ท่านบอก ผมจะไม่ทำตาม จะสวดมาติกาให้ท่าน โลงศพท่านบอกว่าให้ใส่โลงศพเก่า ตนก็จะไม่ทำตาม จะเอาโลงศพใหม่ใส่ร่างท่าน เมื่อเผาเสร็จแล้วจะกระดูกไปฝัง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ท่านสั่งมาทั้งหมดนำไปจะพูดกับเจ้าอาวาสอีกครั้ง เพื่อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป" นายวิโรจน์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายมังกรผู้ตายเป็นที่รู้จักของประชาชนในละแวกใกล้เคียงวัด เป็นคนชอบดื่มสุราขาว เป็นที่ชื่นชอบสำหรับเด็ก ๆ ทุกครั้งที่เจอเด็ก ๆ จะซื้อขนมแจก และทราบว่าหลังจากชาวบ้านทราบข่าวก็ได้นำเลขข้างโลงศพที่นายมังกรเก็บไว้ในอาคารคือเลขอายุของผู้ตายติดข้างโลงศพคือเลข 44 และเลข อายุ 73 รวมทั้งเลขวันตาย คือ 14 วันวาเลนไทน์ไปซื้อหวย ซึ่งหลายคนหวังรับโชคก้อนโตจากเลขที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่