พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า เนื่องจากภูเก็ตเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลักในภาคใต้ตอนบนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ประกอบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวบางประเทศ เช่น จีน อินเดีย ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของไทยดีขึ้นเรื่อยๆ
ผบช. สตม. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตมากขึ้น และจะมีจำนวนสูงสุดในช่วงเดือนธันวาคม นักท่องเที่ยวอันดับแรกคือ รัสเซีย เดินทางเข้ามาเฉลี่ย 3,600 คนต่อวัน รองลงมาคือจีน วันละ 1,500 คน สหราชอาณาจักร เฉลี่ยวันละ 780 คน และอินเดีย 720 คนต่อวัน โดยเฉลี่ยทั้งเดือนมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 350,000 ราย ดังนั้น สตม.จึงต้องเตรียมความพร้อมรองรับการอำนวยความสะดวกควบคู่ไปกับการคัดกรองกลุ่มคนต้องห้ามไม่ให้แฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศได้ จึงต้องมีการประชุม กำชับการปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง มีการเพิ่มกำลังในวันหยุดราชการ ระดมอุปกรณ์เครื่องมือ ยานพาหนะ เพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน
ต่อมาเวลา 15.00 น. ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6 ได้เดินทางไปตรวจความพร้อมและเป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมตรวจเอกซเรย์พื้นที่ป้องกันอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2567 ณ ตม.จว.ภูเก็ต
ผบช.สตม.กล่าวต่อว่า การทำงานของ สตม. ได้ร่วมบูรณาการกับกำลังจากทุกฝ่าย ทั้ง ตม.ภูเก็ต ตำรวจพื้นที่ ทหารและฝ่ายปกครอง นอกจากนี้ ทาง ตม.ยังมีเจ้าหน้าที่อาสาชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยระยะยาว ซึ่งใช้วีซ่าประเภทใช้ชีวิตบั้นปลาย หรือประกอบธุรกิจ ครู นักเรียน หรือมีครอบครัวเป็นคนไทยเข้ามาร่วมเป็นจิตอาสา ช่วยในการประชาสัมพันธ์ แจ้งเบาะแสและช่วยงานของ ตม.ด้วย
ในด้านการเพิ่มศักยภาพการให้บริการ เช่น การต่อวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว สตม. ได้จัดทำโครงการ E-Extension Visa ซึ่งเป็นการให้บริการต่อวีซ่าผ่านระบบ internet โดยนักท่องเที่ยวสามารถยื่นเอกสาร และนัดวันเวลาก่อนนำหนังสือเดินทางเข้ามารับตราประทับอนุญาตต่อวีซ่า ซึ่งเป็นการลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการได้อย่างมาก ปัจจุบันมีให้บริการอยู่ที่ บก.ตม.1 (กทม.) ตม.จว.ชลบุรี ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยให้บริการ 12 ประเภทวีซ่า อาทิ วีซ่าท่องเที่ยว ครู อาจารย์ เป็นต้น
ผบช. สตม. ยังกล่าวต่ออีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 ธ.ค.) ตนจะเชิญประชุมสภากาแฟเพื่อรับฟังความคิดเห็นและปัญหาในการปฏิบัติงานจากหัวหน้าหน่วยงานราชการและภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับงานของ ตม. เพื่อรับฟังและรับรู้ถึงปัญหาเพื่อให้สามารถนำไปแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
