ผอ.รพ.แถลงข่าวตัดปลายนิ้วทารกแรกเกิด ยืนยันดูแลเต็มที่

ภูเก็ต - วันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุม อาคารคุณพุ่ม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์ฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, นายแพทย์สมพบ รักษาสกุลวงศ์ ศัลยกรรมกระดูกและข้อ พร้อมคณะแพทย์และพยาบาล รพ.วชิระภูเก็ต แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนกรณี ผู้ปกครองของทารกแรกเกิดเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เหตุเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทำให้ปลายนิ้วก้อยซ้ายของเด็กขาดเหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 62

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 9 ธันวาคม 2562, เวลา 18:47 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายสตาวุธ ชาญกล อายุ 34 ปี น.ส.อรนุช ทองดี อายุ 24 ปี พร้อมมารดาเด็กหญิงผกาวดี ชาญกล ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อร้องขอความเป็นธรรม (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าวอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ด.ญ.ผกาวดี บุตรนางอรนุช ทองดี และ นายสตาวุธ ชาญกล คลอดปกติ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 62 นอนพักกับมารดาที่หอผู้ป่วยหลวงพ่อแช่ม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในวันที่ 8 ก.ย. แพทย์อนุญาตมารดากลับบ้านได้ แต่เด็กมีอาการตัวเหลือง จึงย้ายมารักษาที่หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 2 และเกิดความผิดพลาดจากการถอดสายน้ำเกลือ มีการตัดพลาสเตอร์พลาดโดนปลายนิ้วก้อยมือซ้ายขาดไปประมาณเกือบครึ่งเล็บ หรือ 1 ใน 3 ของนิ้ว และได้ทำการช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้งปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมกระดูกต่อนิ้ว และซ่อมแซมตกแต่งบาดแผลโดยทันที

เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการเข้าเยี่ยมเด็ก และญาติพร้อมกล่าวคำขอโทษ แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอให้ความมั่นใจว่าทางโรงพยาบาลจะดูแลอย่างเป็นพิเศษและต่อเนื่อง และได้ย้ายเด็กไปรักษาต่อที่หออภิบาลทารกแรกเกิด ภายใต้การดูแลกุมารแพทย์และศัลยแพทย์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้มีการอธิบายชี้แจงผลการรักษาให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะ จนได้จำหน่ายเด็กกลับบ้านเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นได้มีการนัดผู้ป่วยเพื่อดูอาการและความก้าวหน้า ที่แผนกผู้ป่วยนอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านกุมารเวชกรรมและศัลยกรรม โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย.เนื้อเยื่อที่เย็บแผลบริเวณปลายนิ้วยังไม่ลอกหลุดหมด แต่มีเล็บงอกออกมาเพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 26 พ.ย.62 บิดามารดาได้แจ้งว่าเนื้อส่วนที่เย็บซ้อมแซมไว้ได้ลอกหลุดออก และแผลบริเวณโคนแห้งดี แต่ยังมีเนื้อแข็งอยู่ ในวันที่ 4 ธ.ค. บิดามารดา พร้อมญาติได้เข้าพบกันกับคณะแพทย์ขอให้เชื่อมั่นในการรักษาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสิ้นสุดการรักษา และยืนยันว่าจะดูแลเป็นพิเศษให้การรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา พร้อมทั้งให้เขียนบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทางญาติขอกลับไปทบทวนปรึกษากัน และนัดพบกันอีกครั้งในวันนี้ เพื่อรับทราบและเขียนคำร้อง เยียวยา จากนั้นจึงได้นัดพบกันอีกในวันพุธหน้า (18 ธ.ค.) ในเวลา 14.00 น. จะมาหารือกันอีกในเรื่องการเยียวยาการรักษาต่อไป

สำหรับในเรื่องของการเยียวยานั้น เด็กมีสิทธิบัตรทอง ซึ่ง มาตรา ม.41 เงินเยียวยาจาก  สปสช.ส่วนการสูญเสียอวัยวะไม่เกิน 2แสนบาท ทางโรงพยาบาลได้เตรียมเงินเยียวยาเบื้องต้นแล้วมีการทำหนังสือรับผิดชอบดูแลรายละเอียดจนกว่าเด็กกลับมาเป็นปกติ โดยการรักษามีแพทย์ศัลยกรรมมือ 2 คน จะดูแลต่อเนื่อง โดยจะใช้ระยะเวลาเมื่อเด็กโตกว่านี้ อายุ 8 ขวบ จะยืดกระดูกด้วยอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ใช้เวลา 3-4 เดือน ทำให้นิ้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม

ส่วนการที่ผู้ช่วยพยาบาลทำผิดพลาดครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลมีการสอบสวน และมีมาตรการดูแลรักษาวธีการพันพลาสเตอร์ต้องใช้พันหลังมืออย่างเดียวไม่มีการตัด ซึ่งผู้ช่วยพยาบาลที่ทำผิดพลาด มีความเสียใจมาก อยู่ะหว่างการตั้งครรภ์ด้วย ทางโรงพยาบาลจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นอีก นพ.เฉลิมพงษ์ กล่าว

นพ.สมพบ กล่าวเสริมว่า ได้แจ้งทางบิดามารดาผู้ป่วยและญาติว่า ปัญหาหลักของนิ้วเป็นความสวยงามของนิ้ว มากกว่าการใช้งาน การแก้ไขความสวยงามของนิ้วในช่วงวัยของผู้ป่วยเติบโตประมาณ 8 ปี หรือเร็วกว่านั้น โดยสามารถผ่าตัดศัลยกรรมนิ้วได้โดยติดตามดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง 

ทางด้านนายสตาวุธ บิดาของเด็ก กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้มอบเงินทำขวัญให้แก่บุตรของตน ซึ่งรับไม่ได้กับเงินที่ให้มา ยังหารือร่วมกันไม่ลงตัวในการเยียวยา โดยจะนัดคุยกันอีกครั้งในวันที่ 18 ธ.ค. นี้ คาดว่าทุกอย่างคงจบลงด้วยดี

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่