ผอ.วชิระภูเก็ตแจงกรณีโซเชียลแชร์พื้นที่กักกันโรคโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ วอนหยุดแชร์

ภูเก็ต – ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชี้แจงกรณีการกั้นพื้นที่เพื่อควบคุมโรค ว่าเป็นการกันพื้นที่ชั่วคราวเพื่อรอรับผู้ป่วยที่เข้านิยามต้องสงสัย ให้เข้ารับการรักษาและเพิ่มความปลอดภัยของทุกฝ่าย ขอความร่วมมือหยุดแชร์ข้อมูลข่าวอันเป็นเท็จ ที่ไม่เกิดผลดีต่อภาพลักษณ์ของโรงพยาบาล และสร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชน

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 27 มกราคม 2563, เวลา 16:47 น.

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชี้แจงกรณีการกั้นพื้นที่เพื่อควบคุมโรค ภาพ ปชส.ภูเก็ต

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชี้แจงกรณีการกั้นพื้นที่เพื่อควบคุมโรค ภาพ ปชส.ภูเก็ต

บ่ายวันนี้ (27 ม.ค.) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า นพ.เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต ชี้แจงกรณีมีการแชร์ภาพลงในสื่อออนไลน์ ถึงประเด็นการกันพื้นที่ควบคุมโรคของวชิระภูเก็ตว่า การกันพื้นที่ควบคุมโรคที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ เป็นการกันพื้นที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะกันพื้นที่ในช่วงที่ได้รับการประสานงานว่าจะมีการนำส่งผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและตรวจสอบที่รพ.วชิระภูเก็ต

เมื่อรถพยาบาลนำผู้ที่สงสัยเข้ามาจะมีขั้นตอนของการเคลื่อนย้ายผู้มีอาการไข้สูง 38°C ลงจากรถพยาบาลเข้าสู่ห้องแยกโรค เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยการป้องกันและควบคุมเชื้อโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่ ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ดังนั้นจำเป็นจะต้องกันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าไป ในเส้นทางที่มีการเคลื่อนย้ายผู้ต้องสงสัย เพราะโดยปกติบริเวณทางเดินดังกล่าว มักจะมีประชาชนมานั่งพักหรือนอนพัก เมื่อเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ต้องสงสัยเสร็จสิ้น ก็จะเข้าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ดังกล่าว ให้มีความสะอาดและปลอดภัย จากนั้นจะนำป้ายเขตควบคุมโรคออก และคืนพื้นที่การใช้งานให้แก่ประชาชนและผู้รับบริการของรพ.วชิระภูเก็ตตามปกติ

โอกาสนี้ นพ.เฉลิมพงษ์ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลกันพื้นที่เพียงชั่วคราว และขอความร่วมมือผู้ที่นำภาพไปแชร์และสื่อความหมายว่ารพ.วชิระภูเก็ตกันพื้นที่ตลอดเวลา ให้หยุดแชร์ข้อมูลเท็จดังกล่าวเสีย

ในขณะเดียวกันนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องก่อนแชร์ และขอให้หยุดแชร์ข้อมูลเท็จที่จะสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนและสังคม ล่าสุดทางจังหวัดได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลเท็จที่สร้างความเสียหายแก่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว

“จังหวัดภูเก็ตตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินจังหวัดภูเก็ต (ศูนย์ EOC) เพื่อเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นจริงเชิงวิชาการ ป้องกันการสร้างจินตนาการของผู้คนที่พยายามสร้างเรื่องราว เพราะหากแชร์ข่าวผิดไม่เป็นจริงจะไม่เป็นผลดีต่อสังคมโดยส่วนรวม ดังนั้นขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ช่วยตรวจสอบข่าว หากไม่มั่นใจว่าข่าวจริงหรือเท็จยังไง ส่งมาให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตตรวจสอบ หลังจากนั้นทางจังหวัดจะได้ชี้แจงต่อไป”

โดยในวันนี้พ่อเมืองภูเก็ตได้พูดถึงการเฝ้าระวังการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ตว่าได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ทั้ง 33 เที่ยวบิน จำนวน 4,943 คน นักบินและลูกเรือได้รับการคัดกรอง 107 คน ผลการตรวจคัดกรองพบผู้ที่เข้าเกณฑ์ตามนิยามจำนวน 14 ราย ใน 14 รายเป็นคนจีน 13 ราย และนักศึกษาโคลัมเบียที่เพิ่งเดินทางกลับจากไปเรียนที่เมืองอู่ฮั่น 1 ราย ยืนยันว่าไม่มีคนไทยเข้านิยามต้องสงสัยติดเชื้อ

ซึ่งผลการตรวจโรคยืนยันไม่พบเชื้อและอนุญาตให้กลับที่พักแล้ว 8 ราย ส่วนอีก 6 ราย อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจเลือด โดยได้เฝ้าระวังติดตามอาการในห้องแยกเชื้อที่รพ.วชิระภูเก็ต 4 ราย รพ.ป่าตอง 1 ราย และรพ.ถลาง 1 ราย โดยทั้ง 6 รายยังคงมีอาการปกติไม่พบอาการที่มีความรุนแรง

ในส่วนของการเตรียมการด้านบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข มีการประชุมเตรียมความพร้อมและชี้แจงมาตรการ แนวทางการดำเนินงานเฝ้าระวังสอบสวนป้องกันควบคุมโรค มีการเตรียมความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ และทีมเฝ้าระวังสอบสวนควบคุมโรค ทีมรักษาพยาบาล ทีมส่งต่อผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค

สำหรับห้องแยกโรคและทีมดูแลผู้ป่วย มีการประสานให้มีการเตรียมความของห้องแยกโรคความดันลบ และดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่ง เตรียมความพร้อมห้องคัดแยกโรค รวม 11 ห้อง เช่น ที่ รพ.วชิระภูเก็ต มีห้อง AIIR(เอ-ทู-อาร์) 2 ห้อง พร้อมใช้, รพ.ถลาง มีห้อง Modify 1 ห้อง พร้อมใช้, รพ.ป่าตอง Modify 1 ห้อง พร้อมใช้ นอกจากนี้ยังประสานให้มีการเตรียมพร้อมด้านยา วัสดุอุปกรณ์ป้องกันโรค อุปกรณ์เก็บสิ่งส่งตรวจ และรถพยาบาลของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทุกแห่ง

สำหรับการประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการประชุมร่วมกับคณะทำงานท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อกำหนดแนวทางการเฝ้าระวังในท่าอากาศยาน มีการประชุมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว บริษัททัวร์ สมาคมโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต เร่งรัดบริษัททัวร์ประสานต้นทางที่ประเทศจีน เพื่อคัดกรองผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องบิน กำหนดมาตรการให้กรุ๊ปทัวร์คัดกรองอาการป่วยของลูกทัวร์ในช่วงเช้าของทุกวัน พร้อมทั้งให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว หากพบอาการต้องสงสัยให้นำส่งโรงพยาบาลทันที

ด้านนพ.เฉลิมพงษ์ ได้กล่าวถึงแผนปฏิบัติการคัดกรองและควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนาว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ภูเก็ต ร่วมกับโรงพยาบาลภาครัฐเอกชนในพื้นที่ จัดทีมเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขวันละ 33 คนปฏิบัติหน้าที่ที่สนามบินภูเก็ตตลอด 24 ชั่วโมง(อ่านเพิมเติม คลิก) แบ่งเป็น 3 ช่วงช่วงละ 11 คน คือช่วงเช้า, ช่วงบ่าย และช่วงดึก โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดประตูทางเข้า- ออก ท่าอากาศยานภูเก็ตทั้ง 6 ประตู เพื่อคัดกรองวัดอุณหภูมิ และวัดไข้ นักท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออกทุกราย ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน และเทอร์โมอินฟาเรด หากนักท่องเที่ยวรายใดมีอุณหภูมิสูงเกิน 38 องศาเซลเซียสจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อมูลและนำส่งโรงพยาบาลทันที

ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตจะมีการสรุปผลการปฏิบัติและแถลงสถานการณ์ โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทุกวัน ณ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อ่านเพิ่มเติม คลิก) และมอบหมายให้นพ.เฉลิมพงษ์ เป็นผู้แถลงให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ทั้งนี้ สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์รายงานว่าวานนี้ (26 ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันสถานการณ์แพร่ระบาดโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเพิ่มจาก 5 รายรวมเป็น 8 รายแล้ว

โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. กรมควบคุมโรคได้เปิดเผยข้อมูลการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมาเข้าสู่ 5 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ (ตั้งแต่วันที่ 3–24 ม.ค.) ว่ามีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยต้องเฝ้าระวังฯสะสมทั้งหมด 60 ราย ในจำนวนนี้หายป่วยและอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 37 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 5 ราย (เป็นชาวจีน 4 ราย และชาวไทย 1 ราย) ผู้ป่วยหายดีและตรวจไม่พบเชื้อ กลับบ้านแล้ว 3 ราย เหลืออีก 2 รายที่ยังคงรับการรักษาในโรงพยาบาล

สำหรับผู้ป่วยทั้ง 8 ราย นายอนุทินยืนยันว่า เป็นนักท่องเที่ยว ชาวจีน 7 รายและคนไทยที่กลับจากไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่น 1 ราย โดยผู้ป่วย 5 ราย หายดีกลับบ้านได้แล้ว อีก 3 รายยังนอนพักในห้องแยกความดันลบในโรงพยาบาล ทุกรายอาการดี รอผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นลบจึงจะให้กลับบ้านได้

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่