ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้าน พบกองเลือดกระจายไปทั่วทางเข้าร้านและมีปลอกมีดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และได้เดินทางมายังรพ.ถลาง พบว่าผู้บาดเจ็บอาการสาหัส แพทย์ได้ให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน อยู่ภายในห้องฟื้นชีพ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายสมบัติ ตาลตา อายุ 47 ปีเป็นเจ้าของร้านซักรีดมีบาดแผลถูกอาวุธปลายแหลมและมีดแทงที่หน้าอกด้านซ้ายเหนือราวนมและหน้าอก รวม 3 แผล ในเวลาต่อมาเนื่องจากอาการนายสมบัติยังไม่พ้นขีดอันตราย แพทย์ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.วชิระภูเก็ต
ร.ต.ท.ภัทรกร กล่าวว่า จากการสอบสวน นางกนกกร เรือนแก้ว อายุ 47 ปี ภรรยาของนายสมบัติ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ นายนุ ไม่ทราบทราบชื่อจริงเดินเข้ามาภายในบริเวณร้านและได้เข้าไปหาลูกจ้างในร้าน ชื่อนางนางภัคสุภางค์ สมภาค อดีตภรรยานายนุ ที่เลิกลากันไปแล้วกว่า 3 ปี มีบุตรด้วยกัน 4 คน ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างหนัก
ระหว่างนั้นนายสมบัติเห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามาช่วยห้ามปราม เป็นเหตุให้นายนุไม่พอใจจึงได้มีการชกต่อยฟัดเหวี่ยงกัน จากนั้นนายนุได้ควักมีดที่พกพามา ออกมาแทงนายนายสมบัติอย่างไม่ยั้ง จนล้มฟุบลงบนพื้นบาดเจ็บสาหัส ก่อนวิ่งหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สภ.ถลาง ได้ลงตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และดูอาการผู้บาดเจ็บด้วยตนเอง กล่าวว่า เบื้องต้นทราบผู้ก่อเหตุแล้วซึ่งเป็นอดีตสามีเก่าของลูกจ้างร้านซักรีดที่เลิกลากันไปแล้วกว่า 3 ปี
ส่วนนายสมบัติเจ้าของร้าน ซักรีดเป็นเพียงพลเมืองดีที่เห็นทะเลาะกันแล้วเข้าไปห้ามจนถูกแทง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุใกล้เคียง เพื่อดูเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป