วันนี้ (3ก.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ห้องประชุมกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.รุ่งฤทธิ์ รัตนภักดี รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายเอก ท้วมเพชร อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 171/2562 ลงวันที่ 2 ก.ค.2562 โดยกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”
พ.ต.อ.สมพงศ์ กล่าวว่า นายเอก ตกเป็นผู้ต้องหาที่ใช้เชือกไนล่อนรัดคอฆ่า น.ส.ฝนทิพย์ ไชยกุล อายุ 39 ปี ชาว จ.ตรัง เหตุเกิดภายในห้องเช่าของแมนชั่นแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รัษฎา (อ่านเพิ่มเติม คลิก) โดยเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์หลบหนีออกจากจ.ภูเก็ต ไปยังพื้นที่รอยต่อ จ.ตรัง และนครศรีธรรมราช ชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปอย่างทันทีและต่อเนื่อง พบว่าภายหลังไปถึง อ.กะปาง นายเอกได้นำลูกไปฝากไว้กับญาติ แล้วขึ้นรถโดยสารไปยังกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเส้นทาง และปลายทางช่วยตรวจสอบ
ต่อมาในเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ทำการตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรวจพบนายเอกผู้ต้องหาเดินทางไปกับรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพ ฯ – หาดใหญ่ จึงได้เชิญตัวลงจากรถและซักถามข้อมูล และจับกุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต
ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับว่า ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยาจนถึงแก่ความตายจริง โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้รู้ระแคะระคายว่าภรรยาแอบคบหาชายอื่นที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก อีกทั้งยังบล็อกเฟซบุ๊กของตน เพื่อไม่ให้รู้ถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยวันเกิดเหตุ (2 ก.ค.) ตนได้ขอดูโทรศัพท์ของภรรยา แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ดู ด้วยความโมโหจึงลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาและใช้มือบีบคออย่างแรง กระทั่งภรรยาสลบแน่นิ่งไป
หลังจากนั้นตนจึงใช้เชือกไนล่อนขนาดเล็กรัดคอภรรยาซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่าภรรยาเสียชีวิตลงแล้ว หลังก่อเหตุได้พาลูกทั้งสองคนไปฝากไว้กับแม่ของตนที่จ.ตรัง โดยฝากให้แม่ช่วยดูแลลูก ๆ ซึ่งตนเองได้บอกกับแม่ว่ารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และคงไม่มีโอกาสดูแลแม่กับลูก ๆ อีกต่อไปแล้ว จากนั้นจึงได้เดินทางไปขึ้นรถทัวร์โดยสารประจำทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหวังหลบหนี แต่ก็ยอมรับว่าเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว ว่าตนเองอาจจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ระหว่างทาง ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ คือถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้สามารถคลี่คลายและจับกุมตัวได้ภายใน 12 ชม.ก็เพราะหลายหน่วยร่วมด้วยช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สภ.เมืองภูเก็ต, กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต, ชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด, ชุดสืบสวน สภ.กะปาง, เจ้าหน้าที่ทหาร ร.25 พัน 1 เจ้าหน้าที่ตำวจทางหลวง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากช่วยกันแบบนี้แล้วก็สามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว