ผีพนันการ์ดตก นักพนันนับร้อยมั่วสุมเย้ยพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลางเมืองภูเก็ตทั้งวันทั้งคืน

ภูเก็ต - ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลาย 2 บ่อนใหญ่บนเกาะภูเก็ต ในท้องที่อำเภอถลางและอำเภอเมืองภูเก็ต พบนักพนันร่วมร้อยยังมั่วสุมเล่นพนันท่ามกลางสถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตอกย้ำไม่รับเคลียร์ธุรกิจสีเทาใด ๆ ทั้งสิ้น

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 30 มิถุนายน 2563, เวลา 18:59 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2563 เวลา 15.30 น. นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เปิดปฏิบัติการ “ดีบุก” ทลาย 2 บ่อนใหญ่กลางเมืองภูเก็ต

หลังจากประชาชนร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมและร้องสื่อมวลชนหลายสำนัก ว่ามีบ่อนการพนันผุดขึ้นจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เปิดบ่อนพนันโปปั่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “บ่อนกุ้ง - ปลา” อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เปิดให้นักพนันเข้าไปเสี่ยงโชคทั้งวันทั้งคืน โดยไม่สนใจคำสั่งปิดแหล่งมั่วสุม ห้ามรวมกลุ่ม ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อการแพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อได้รับการร้องเรียน กรมการปกครองจึงส่งพนักงานฝ่ายปกครองเข้าไปทำการสืบสวนพบว่า บ่อนพนันจุดแรก ตั้งอยู่กลางเมืองภูเก็ต ที่ลานกว้างหลังตึกแถวย่านพูนผล ถนนพูนผล ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต พบว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันโปปั่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า กุ้ง, ปลา, แมงดา, ดอกไม้ ซึ่งเป็นการพนันยอดนิยมบนเกาะภูเก็ต สภาพบ่อนเป็นพื้นที่โล่ง มีการล้อมรั้วด้วยกำแพงสังกะสีรอบทิศทางเพื่อบิดบังสายตาคนทั่วไปมิให้มองเห็นกิจกรรมภายในบ่อน โดยมีทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ สามารถรองรับรถยนต์กว่า 30 คัน ขับเข้าไปแอบซ่อนจอดเพื่อเล่นพนันภายในบ่อนได้ ซึ่งจะมีคนเฝ้าประตูคอยดูต้นทางตลอดเวลา ภายในบ่อนพบนักพนันกว่า 40 คน กำลังเบียดเสียดกันเข้าไปวางเดิมพันและลุ้นผลพนันอย่างสนุกสนาน

จุดที่สอง ที่บริเวณใกล้สี่แยกเขาล้าน ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนพนันโปปั่นเช่นเดียวกัน บ่อนนี้มีรั้วสังกะสีกั้นเพื่อป้องกันมิให้คนภายนอกมองเห็นกิจกรรมเล่นพนันด้านในเช่นกัน โดยมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในจำนวนมาก ภายในบ่อนพบนักพนันกว่า 40 คน กำลังรวมกลุ่มเล่นพนันอย่างครึกครื้น และมีนักพนันจากภายนอกเดินเข้าออกบ่อนตลอดเวลา

เมื่อพนักงานฝ่ายปกครองชุดสืบสวนพบการกระทำผิดชัดแจ้งแล้ว จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดภูเก็ตก่อนเข้าไปจับกุม ซึ่งทันทีที่ชุดจับกุมเข้าไปถึง เมื่อนักพนันรู้ตัวต่างพากันแตกตื่น ทิ้งสิ่งของวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทิศ คนละทาง แต่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองได้วางกำลังไว้รอบด้าน ปิดทางหนีทุกด้านไว้แล้ว จึงสามารถรวบตัวนักพนันได้ทันที

สำหรับการบุกจับกุมในจุดแรก พื้นที่ที่อำเภอเมืองภูเก็ต สามารถจับกุมนักพนันได้ 45 คน แยกเป็น ชาย 30 คน หญิง 15 คน เงินของกลาง 62,420 บาท
และทองคำหนัก 1 บาท

จุดสอง ที่อำเภอถลาง สามารถจับกุมนักพนันได้ จำนวน 42 คน แยกเป็นชาย 22 คน หญิง 20 คน เงินของกลางในบ่อน 64,260 บาท และยังพบบัญชีเงินหมุนเวียนบ่อนละกว่า 1 ล้านบาทต่อวัน รวมทั้ง 2 จุด เป็นจำนวน 87 คน เงินของกลาง 126,680 บาท

จากนั้นชุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต และที่ว่าการอำเภอถลาง ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นอันระบุไว้ใน บัญชี ก. หมายเลข 2 (โปปั่น) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และถ้าเข้าข่ายการฟอกเงินจะส่งให้ปปง.ร่วมตรวจสอบ

นายรณรงค์ กล่าวว่า บ่อนพนันทั้ง 2 แห่ง ที่เข้าจับกุมในวันนี้ เคยเปิดเป็นบ่อนพนันมานานแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่เขาเดือดร้อน จนนำมาร้องเรียนออกสื่อมวลชนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้บ่อนปิดตัวไปชั่วคราว แต่พอเรื่องเงียบแล้วก็กลับมาเปิดบ่อนใหม่ซ้ำอีกครั้งในสถานที่เดิม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้จะอยู่ในสถานการณ์ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ซึ่งเราพบว่าบ่อนพนันทั้ง 2 แห่งนี้ เปิดพร้อมกับมาตรการคลายล็อกเฟส 4 และปล่อยปละละเลย ให้นักพนันเข้ามั่วสุมเล่นพนันกันได้ โดยไม่มีการคัดกรองป้องกันโรคแต่อย่างใด
จากนี้ไปฝ่ายปกครองจะได้กวดขันจับกุมแหล่งอบายมุขอย่างต่อเนื่อง ฝากถึงผู้เกี่ยวข้องขอให้ประกอบธุรกิจให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมเกินควร หรือท้าทายกฎหมายอย่างชัดแจ้ง

หากประชาชนมีเบาะแสบ่อนการพนันหรือแหล่งอบายมุขสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในท้องที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่มีการปฏิบัติ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย

อนึ่ง ที่ผ่านมามีข่าวสารว่า ได้มีบุคคลมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง หรืออ้างเป็นนายหน้าตัวแทน ออกตระเวนตบทรัพย์เรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนัน และธุรกิจสีเทาต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจบางส่วนยอมที่จะจ่ายทรัพย์สินแก่กลุ่มมิจฉาชีพ นายรณรงค์ กล่าว

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองขอประกาศให้ทราบว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองไม่มีนโยบายในการเรียกทรัพย์สินกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผิดกฏหมายเพื่อรับเคลียร์ใดๆทั้งสิ้น กำลังพลของศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง(ศกปค.)ซึ่งเป็นกำลังหลักที่ปฏิบัติภารกิจในนามของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง มีกำลังเพียง 30 นาย มีภารกิจที่จะต้องวางแผนออกปฏิบัติการในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวลาที่จะไปตระเวนเรียกรับผลประโยชน์ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่กล่าวอ้างว่าเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง หรือเป็นตัวแทนของชุดปฏิบัติการพิเศษ

หากผู้ประกอบการผิดกฎหมายรายใดยอมที่จะจ่ายหรือเคลียร์กับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งอ้างตัวว่าเกี่ยวข้องกับชุดตรวจการพิเศษกรมการปกครอง และหากมีข่าวสารออกมาว่าเคลียร์กับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองแล้ว ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจะเข้าจับกุมสถานประกอบการนั้นทันที

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่