ผู้ช่วย.ผบ.ตร.ลงภูเก็ตจับกุมการค้ามนุษย์เด็ก “แก๊งน้ำมะพร้าว”

ภูเก็ต - วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรตำบลป่าตอง พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวยศยะ ผู้ช่วย.ผบ.ตร.เป็นประธานการแถลงข่าว การจับกุมการจับกุมการค้ามนุษย์เด็ก (แก๊งน้ำมะพร้าว) โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่จังหวัดภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2562, เวลา 17:48 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

โดยมี พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง, น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต, นายกิตติ อินทรกุล หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา

มีผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวนทั้งสิ้น 4 คน ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 9 พ.ย.2562 ประกอบด้วย 1.นายวรรธกาญจน์ อร่ามศรี 2.นางเขมมิกา อุปการแก้ว 3.นายพรเทพ อุปการแก้ว และ 4.นายวชิระ พูลช่วย 

ผู้ต้องหาที่ 1 และ ผู้ต้องหาที่ 4 ดำเนินคดีในข้อหาสมคบด้วยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสดงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานเด็ก หรือการอื่นใด หรือคล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใด ได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปการทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี และบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกิน 18 ปี 

ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ดำเนินคดีข้อหา สมคบด้วยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ด้วยการแสดงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานเด็ก หรือการอื่นใดหรือคล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใด ได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน และร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปการทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปีและบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี, เป็นนายจ้างร่วมกันจ้างเด็กต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง, ร่วมกันจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นลูกจ้าง โดยไม่แจ้งการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงาน ภายในสิบห้าวันแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน และเป็นนายจ้างร่วมกันให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในระหว่างเวลา 22.00-06.00 น.โดยไม่ได้รับอนุญาต 

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางนายอำเภอเมืองภูเก็ต และปลัดอำเภอเมือภูเก็ต เห็นเด็กอายุประมาณ 10-13 ปี มาเร่ขายน้ำมะพร้าวในที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต ในสภาพมอมแมมซูบผอม เกิดข้อสงสัยว่าทำไมเด็กไม่ไปโรงเรียน จึงได้สอบสวน และทราบว่าถูกบังคับให้ขายน้ำมะพร้าว เด็กบางคนถูกทำร้ายทุบตี เมื่อทราบเช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่บ้านเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มสหวิชาชีพ ได้ร่วมกันสอบปากคำเด็ก ก่อนที่จะเด็กไปพักไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต 

จากนั้นทางผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ได้มีการร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช และต่อมาได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  ทำนองว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิ์กักขังเด็กไว้ มีการแจ้งความแต่ไม่มีความคืบหน้า และจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โต เป็นข่าวที่ทางพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจอย่างมาก และต้องการทำความจริงให้กระจ่าง ตนในฐานะเป็นประธานศูนย์ ศพดส.นำเจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร มาตรวจสอบข้อเท็จจริงและมาช่วยเหลือการปฎิบัติ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าความจริงเป็นเช่นไร จึงให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ข้อหาการค้ามนุษย์ฯ และมีการจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่จังหวัดภูเก็ต

ผช.ผบ.ตร.อธิบายเพิ่มเติมว่า เด็กขายน้ำมะพร้าวเป็นเยาวชน เป็นกำลังหลักของประเทศชาติในอนาคต และเป็นคนไทยและอาจะเป็นปัญหาครอบครัวต่อไปในอนาคตหรืออาจจะส่งผลต่อไปเทศชาติ เนื่องจากเด็กไม่ได้การพัฒนาทางด้านจิตใจ ทั้งทางด้านสติปัญญาและทางด้านร่างกาย เด็กพวกนี้จะไม่ได้เรียนหนังสือ เด็กที่ขายน้ำมะพร้าวต้องแบกน้ำมะพร้าวที่หลักมาก ทำงานเกิดเกินวันละ 10 ชั่วโมง บางครั้งถูกทำร้าย ตบตี ถูกตบ เรื่องนี้ยอมไม่ได้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และประกาศเลยว่า แก็งค็ค้ามนุษย์เด็กในจังหวัดภูเก็ตจะต้องปราบให้สิ้นซากภายใน 1-2 วันนี้ ตนการันตีว่าทุกแก็งค์ต้องสลายไปด้วยการดำเนนการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด 

สำหรับแก๊งค้าน้ำมพร้าวนั้นได้ให้เด็กเร่ขายตั้งแต่เวลา 07.00 -13.00 น. และช่วงเวลา 13.30 - 06.00 น. ในราคาขายถุงละ 40 บาท เด็กต้องถือน้ำมะพร้าวเร่ขายครั้งละ 10 ถุงอย่างต่ำ บางทำรายได้วันละ 400 บาท ซึ่งทั้งหมดจะถูกเก็บไปให้พ่อแม่ หรือครอบครัวเด็กที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเด็กหากจะจ่ายเงินนั้นก็จะถูกหักออกไป และบางคนก็จ่ายเงินค่าทิปที่ได้จากแขกที่รู้สึกสงสารเด็กพวกนี้ เมื่อกลับมาช้าหรือขายไม่ได้จะถูกลงโทษ เด็กทุกคนนั้นพักอยู่รวมกันที่หมู่บ้านสะพานหิน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จะวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวัน โดยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ต้องหาเดือนละนับแสนบาท มีเงินอู้ฟู้ กำไรมหาศาล จากการสอบปากคำเด็ก ทราบว่าน้ำมะพร้าวดังกล่าวนั้นใช้น้ำเปล่า-ผสมหัวเชื้อกินน้ำนมแมว -ใส่น้ำตาลทราย-ใส่น้ำมะพร้าวเพียงเล็กน้อย บรรจุใส่ถุงพลาสติกเอาไปขาย ถุงละ 40 บาท กอบโกยกำไรมหาศาล จากต้นทุนหลักพัน รับเต็มกำไรหลักแสนบาทต่อเดือน   

ผช.ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า เมื่อคืน (9 พ.ย.) ก็ได้ส่งการให้ระดมกวาดล้างให้กวาดล้างการนำเด็กมาเร่ขายของ และพบเด็กเพิ่มอีก 4 ราย ยืนขายผลไม้และขนม โดยรายที่ 1 ยายนำเด็กมาขายขนมที่ร้านโกดังเพลง ต.ป่าตอง รายที่ 2 เด็กหญิง 9 ปี แม่พาลูกมาขายดอกไม้ที่ร้านใบตอง ต.ป่าตอง รายที่ 3 เด็กอายุ 7 ปี พ่อเลี้ยงพาลูกเลี้ยงมาขายพวงมาลัยที่ร้าน BBQ ที่ซอยตาเอียด ต.ฉลอง รายที่ 4 เด็กหญิง 4 ปี พี่สาวพาน้องมาขายดอกไม้ที่ร้านส้มตำบันเทิง อ.เมืองภูเก็ต รายที่ 5 เป็นชายชาวกัมพูชา อายุ 63 ปี และหญิงอายุ 23 ปี เร่ขายของในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งผิดกฎหมายเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย ชาวต่างชาติจะเร่ขายของไม่ได้ ซึ่งจะดำเนินการเยียวยาและมตราการตามการปกครอง ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก จะมีมาตรการการเยียวยาเป็นหลัก

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่