ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสหราชอาณาจักรเข้าหารือแผนนำเรือรบกำลังพล 420 นายเข้าภูเก็ต

ภูเก็ต –เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้การต้อนรับ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อพบปะสัมพันธ์หารือข้อราชการ เกี่ยวกับการนำเรือรบเข้ามายังประเทศไทย และแนวโน้มการจัดการวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันศุกร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2564, เวลา 12:47 น.

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พันเอกโทนี สเติร์น ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพันจ่าอากาศเอกแคลร์ แม็คคูน และนางสาวสุทธาทิพย์ สารฤทธิ์ ในโอกาสเยือนจังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2564

พันเอกโทนี ได้กล่าวชื่นชมจังหวัดภูเก็ตที่มีการควบคุมป้องกันโรคโควิดได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โอกาสนี้กองทัพเรืออังกฤษขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคณะที่ให้การต้อนรับ สำหรับภารกิจที่เดินทางมาในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากกองทัพเรืออังกฤษกำหนดแผน ที่จะนำเรือรบและกำลังพลรวม 420 นาย เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม 2564

ดังนั้นจึงอยากทราบแนวทางการปฏิบัติในการเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต อย่างไรก็ตามกำลังพลที่จะเดินทางเข้ามา จะเป็นกำลังพลที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 โดส รวมถึงมีมาตรการการป้องกันและควบคุมโรคโดยตรวจคัดกรองโรค และตรวจสุขภาพของกำลังพลบนเรืออย่างต่อเนื่อง ด้วยทีมแพทย์ประจำเรือ

ซึ่งหากจังหวัดภูเก็ตสนับสนุนการเดินทางเข้ามาในครั้งนี้กองทัพเรืออังกฤษ พร้อมจะทำตามกฎระเบียบของประเทศและจังหวัดภูเก็ต และหลังจากนี้สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษจะได้ประสานงานกับกองทัพเรือของประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับแผนการเดินทางเข้ามาของทัพเรืออังกฤษ หากได้รับการอนุมัติให้เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตจะใช้เวลาปฏิบัติภารกิจและทำกิจกรรมในพื้นที่ 3-5 วัน ประกอบด้วยกิจกรรมการเลี้ยงอาหารเที่ยงบนเรือ กิจกรรมการเลี้ยงรับรองอาหารค่ำ และการจัดกิจกรรมเปิดโอกาสให้นักเรียนมีความสนใจด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางด้านเรือได้ขึ้นเรือเพื่อทัศนศึกษา รวมถึงการทำกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรืออังกฤษและกองทัพเรือของรัฐบาลไทย

พร้อมกันนี้กองทัพเรืออังกฤษมีแผนที่จะทำการประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศอังกฤษประเทศไทยและจังหวัดภูเก็ต โดยจะมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านสื่อโซเชียลมีเดียผ่านช่องทางโทรทัศน์และสื่ออื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ทางด้านนายณรงค์ กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมเปิดเมืองในเดือนกรกฎาคม เพื่อเป็นการสร้างส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีการควบคุมป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้ประชาชนฉีดวัคซีนวางเป้าหมายไม่น้อยกว่า 60-70 % เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในการเตรียมความพร้อมเปิดเมืองตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ชาวต่างชาติหรือกำลังพลทหารชาวอังกฤษที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต จะต้องปฏิบัติตามมาตรการตามที่รัฐบาลกำหนด คือเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส สำหรับการเดินทางเข้ามาของกองทัพเรืออังกฤษเป็นนโยบายระหว่างรัฐบาลอังกฤษกับรัฐบาลไทยที่จะพิจารณา ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเป็นหน่วยพื้นที่ที่พร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และมีความยินดีที่จะให้การต้อนรับหากกองทัพเรืออังกฤษเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต การเดินทางเข้ามาของกองทัพเรืออังกฤษถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยมีนโยบายต้อนรับชาวต่างชาติ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

และในวันเดียวกันนั้น พันเอกโทนีและคณะได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 และหารือข้อราชการ โดยมี พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายอำนวยการได้ให้การต้อนรับ พร้อมกับหารือเกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับการแวะเยือนเมืองท่าประเทศไทย ของเรือรบสหราชอาณาจักร ชั้นเรือพิฆาต Type 23 และ Type 45 ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS QUEEN ELIZABETH ในโอกาสเดินทางผ่านเข้ามายังพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน

โดยการเข้าเยือนเมืองท่าประเทศไทย จะสามารถกระทำได้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้หากกองทัพเรือจะพิจารณาด้านความปลอดภัยและอนุญาตให้เรือของทัพเรือสหราชอาณาจักรเข้าจอดประเทศไทยได้แล้วนั้น ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมให้การสนับสนุนในการเข้าเยือนเมืองท่าฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือ และกองทัพเรือมิตรประเทศ อันจะก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างพื้นที่ในภายภาคหน้าต่อไป

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/ทัพเรือภาคที่ 3

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่