นายหฤษฎ์ชัย ระบุว่า ในพื้นที่ปรากฏว่าพบเต่ามะเฟืองกำลังวางไข่อยู่บริเวณพิกัด E413683 N942322 พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ลป.3 (ปาง) ห่างจากเขาหน้ายักษ์มาทางทิศใต้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
จากนั้นได้เฝ้าดูการวางไข่จนแม่เต่าวางไข่เสร็จ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการวัดขนาดของแม่เต่า โดยความยาวจากหัวถึงหาง 190 เซนติเมตร ความยาวกระดอง 150 เซนติเมตร ความกว้างของลำตัว 85 เซนติเมตร
ทั้งนี้ แม่เต่าใช้เวลาตั้งแต่วางไข่จนกระทั้งกลับลงสู่ทะเลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งต่อมาได้พิจารณาสภาพแวดล้อมบริเวณหลุมไข่และพบว่าหลุมไข่ที่แม่เต่าวางไข่ไว้ พบว่าอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด ซึ่งอาจจะทำให้ไข่เต่าเสียหายได้จึงทำการย้ายไข่ทั้งหมดมาฟักยังหลุมฟักที่อยู่ในคอกกั้น (เป็นคอกเดียวกันกับไข่ของเต่ามะเฟืองที่ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2563)
นับจำนวนไข่ได้ทั้งหมด 103 ฟอง เป็นไข่ดี 87 ฟอง และไข่ลม 16 ฟอง หลุมไข่มีความลึก 80 เซนติเมตร ต่อจากนี้จะจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามบริเวณหลุมฟักไข่ตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าไข่เต่าจะฟักออกเป็นตัวซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 55-60 วัน
สำหรับไข่เต่ารังนี้นับเป็นเต่ามะเฟืองรังที่ 15 ที่ขึ้นมาวางไข่ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562-ปัจจุบัน และเป็นรังที่ 4 ที่แม่เต่ามะเฟืองวางไข่นอกฤดูกาล
ทั้งนี้ปัจจัยจากธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำทะเล ความรุนแรงของคลื่นลมช่วงมรสุม และฝนที่ตกในช่วงนี้ อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเพาะฟักของลูกเต่ามะเฟืองได้ เนื่องจากยังไม่เคยมีรายงานเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่นอกฤดูกาล จึงนับเป็นครั้งแรกที่ต้องมีการเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป