นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่ศูนย์อำนวยการน้ำเฉพาะกิจ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
ช่วงวันที่ 10 - 11 ตค. 62 ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้เฝ้าระวังลำน้ำในภาคใต้ จากแนวโน้มปริมาณฝนที่มากขึ้นในระยะนี้ โดยประเมินว่า วันที่ 15 ต.ค. 62 เป็นต้นไปจะมีฝนตกหนักในภาคใต้ ตะวันออก และตะวันตก รวม 14 จังหวัด ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง พัทลุง และสงขลา
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาภัยจากอุทกภัย จากสภาวะฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง (12-15 ต.ค.) โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ริมชายฝั่งทะเล และสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ/ทางทะเล สถานประกอบการ ร้านค้าบริเวณริมชายหาด เรือโดยสาร นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเน้นย้ำผู้ประกอบอาชีพประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศแจ้งเตือนของราชการอยู่ตลอดเวลา พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำอยู่ในสำนักงาน และให้เจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรมชลประทานและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเร่งเข้าติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนคศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต และสงขลาที่อาจจะได้รับผลกระทบหนักกว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากอิทธิพลของลมหนาวที่ปะทะเข้ามา ทำให้สภาพอากาศเกิดความผันผวนมาก และสามารถติดตามสถานการณ์น้ำเพิ่มเติมได้ที่ http:waterinfo.onwr.go.th
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/สนทช.