รายชื่อ 10 จังหวัดที่มีรายได้ท่องเที่ยวสูงสุด ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 766,289 ล้านบาท 2. ภูเก็ต 437,808 ล้านบาท 3. ชลบุรี 264,300 ล้านบาท 4. สุราษฎร์ธานี 92,154 ล้านบาท 5. เชียงใหม่ 90,537 ล้านบาท 6. กระบี่ 70,742 ล้านบาท 7. ประจวบคีรีขันธ์ 46,015 ล้านบาท 8. เชียงราย 42,485 ล้านบาท 9. สงขลา 41,614 ล้านบาท และ 10. พังงา 40,519 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม “ภูเก็ตอันดับ 2 รายได้ท่องเที่ยวพุ่ง 437,808 ล้านบาท ปี 2567” ไม่ใช่เรื่องใหม่ของจังหวัดภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตทำรายได้จากการท่องเที่ยวปีละหลายแสนบาทมาอย่างต่อเนื่อง และในเรื่องนี้เองทางภาคเอกชนก็ได้มีการพูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง ซึ่งจะมีการจัดสรรงบประมาณกลับสู่จังหวัดภูเก็ตโดยคำนวณจากจำนวนประชากร ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนภูเก็ตก็ได้มีการดำเนินการในด้านต่าง ๆ เพื่อต้องการจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการดูแลจัดการจังหวัดภูเก็ตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของจังหวัดภูเก็ตอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนให้ผู้ที่อาศัยหรือทำงานในจังหวัดภูเก็ตได้ย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งรวมถึงการผลักดันจังหวัดภูเก็ตสู่การเป็น “เขตปกครองพิเศษ” เพื่อให้จังหวัดภูเก็ตสามารถดูแลตัวเองได้ดีมากกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งในส่วนของงบประมาณและการบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องรอการอนุมัติจากส่วนกลาง
นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น หรือปราบ ผู้ประกอบการสถานบันเทิงป่าตอง ประธานพิโซน่ากรุ๊ป และผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาป่าตอง เปิดเผยว่า การผลักดันเรื่องเขตปกครองพิเศษได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังดำเนินการต่อไปเพราะยังหวังเชื่อว่าจังหวัดภูเก็ตมีความสามารถในการปกครองตนเองได้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย
“การผลักดันให้จังหวัดภูเก็ตเขตปกครองรูปแบบพิเศษ หรือ มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดมีความพยายามจากภาคเอกชนมาโดยตลอด เพื่อให้ภูเก็ตสามารถมีศักยภาพที่ดีในทุกมิติ ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้กับการแก้ปัญหาและรักษาภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
“การสนับสนุนจากภาคเอกชนและประชาชนในจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมาแสดงเจตจำนง ในการเลือก สส.จากพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชนในขณะนี้ และผลักดันให้ทาง สส. เสนอกฏหมาย หรือ พรบ.การบริหารจังหวัดภูเก็ต เป็นการเฉพาะนอกจากนั้นยังพลักดันในหลายพื้นที่ อปท. เสนอรูปแบบการปกครองพิเศษ อีกหลายพื้นที่ เช่น เมืองป่าตอง, นครภูเก็ต และ อบจ.ภูเก็ต” นายปรีชาวุฒิ กล่าว
ทางด้าน นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ก็ได้มีการเรียกร้องให้คนไทยที่เข้ามาทำงานหรือมาอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตให้ช่วยกันย้ายทะเบียนบ้านเข้ามา เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นจริงได้มากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งได้ชี้ให้เห็นถึงงบพัฒนาจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับเพียงปีละประมาณ 160 - 170 ล้าน ซึ่งน้อยกว่างบที่จัดสรรให้กับจังหวัดเล็ก ๆทั้งที่จังหวัดภูเก็ตมีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวปีละหลายแสนล้าน
ล่าสุดนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้ให้ความเห็นถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตว่า ภูเก็ตกลายเป็นเเลนมาร์คไปปรากฏบนเเผนที่โลก หลังจากได้รับการประกาศให้เป็น “เมืองเทศกาลโลก (World Festival and Event City)” ประจำปี 2024 โดยสมาคมเทศกาลและกิจกรรมระหว่างประเทศ (IFEA)
“ภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีงานประเพณีที่ดีระดับโลก เเละทั่วโลกจะต้องจารึกไว้ว่าในทุก ๆ ปีของช่วงนี้จะต้องมาที่ภูเก็ต”
“ผมพูดอยู่เสมอว่า 90% ของภูเก็ตคือภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจหมด ปีนี้ทำให้เป็นบทพิสูจน์ว่าภูเก็ตเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวคุณภาพ”
นายธเนศกล่าวต่อไปอีกว่า ในปีนี้สมาคมฯ ร่วมกับมูลนิธิท่องเที่ยวพัฒนายั่งยืน “ตอนนี้ทางสมาคมกำลังโฟกัสเรื่องของนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ เเต่จะไปหวังนักท่องเที่ยวคุณภาพอย่างเดียวไม่ได้ เราก็ต้องเป็นจุดหมายปลายทางคุณภาพด้วย ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่น่าสงสาร ประชากรสี่แสนกว่าคน เเต่กลับมีรายได้ถึงเกือบ 5 เเสนล้าน เเละต้องเป็นภาคเอกชนที่ช่วยกันผลักดัน ยกตัวอย่างผ้าป่าฉายเเสง เเละศูนย์รังสีวิทยาเเห่งเเรกในภาคใต้อันดามัน เเต่ศูนย์นี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เอกชน รัฐบาลให้เเต่เครื่องมือ ส่วนอาคารเราต้องหารายได้มาจากการบริจาคประมาณ 250 ล้าน ก็ต้องทอดผ้าป่าช่วยกันระดมทุน หรือล่าสุดผู้ว่าไปดูถนนเพื่อขยายเเต่ส่วนกลางไม่มีเวียนคืนให้เราก็ต้องช่วยกันระดมทุนซื้อกลับมาเอง”
“ในนามสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯ อยากฝากไปยังนักท่องเที่ยวเเละผู้คนที่อยู่ในภูเก็ตว่าภูเก็ตคือ “Destination for All” แปลว่าเรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกประเภท คิดว่าภูเก็ตเองเป็นจุดหมายปลายทาง ที่คุณสามารถมาเที่ยวได้ทุกปี ทั้งปี เพราะเรามี เทศกาลเเละงานมากมายที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงไฮซีซั่นหรือโลว์ซีซั่น ซึ่งก็อยากที่จะโปรโมทเเละสื่อสารออกไป” นายธเนศ กล่าว
รายงานเพิ่มเติม: ณัฏฐ์นรี ลิขิตวัฒนสกุล