ภูเก็ตซ้ำซาก! ปัญหาแท็กซี่เจ้าถิ่นกับรถแอป ไม่ให้รับลูกค้าแม้ฝนตก จนต้องยกเลิกงาน

ภูเก็ต - จากกรณีเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 67 เพจเฟซบุ๊กดังภูเก็ตโพสต์ ’ไม่แผ่ว รายวัน มิเตอร์เจอ คุกคาม คาเฟ่ดังกมลา ฝนตกไม่อยากให้แขกเดินไกล ถอยไปรับ โดยเจ้าถิ่นไล่แซกลงรถ สุดท้ายต้องกดยกเลิกงาน’

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2567, เวลา 11:09 น.

ภูเก็ตซ้ำซาก! ปัญหาแท็กซี่เจ้าถิ่นกับรถแอปพลิเคชั่น

ภูเก็ตซ้ำซาก! ปัญหาแท็กซี่เจ้าถิ่นกับรถแอปพลิเคชั่น

หลังจากนั้นจึงติดต่อ นายเฉลิมพร ขวัญยืน ผู้เสียหาย เพื่อสอบถามข้อมูลและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้มีนักท่องเที่ยวเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ ผ่านแอปพลิเคชั่นโบล์ท (Bolt) และได้ขับรถมารับนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าคิวรถแท็กซี่หน้าคาเฟ่ ม.3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

จากนั้นได้ตรวจสอบจนทราบรายละเอียดว่าผู้ก่อเหตุคือ นายมนัสมี ปกสกุล ได้เข้ามาสอบถามและให้ไปนายเฉลิมพรให้จอดรับบริเวณด้านหน้าโรงแรมที่อยู่ถัดออกไปและนายมนัสมีได้พูดจาด้วยอาการไม่พอใจ จากนั้นนักท่องเที่ยวตกใจได้ลงจากรถ ทำให้นายเฉลิมพรเกิดความกลัวและตกใจ จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.กมลา

ภายหลังนายมนัสมีได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน จึงแจ้งให้ทราบว่าได้กระทำความผิดฐาน “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ” จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 500 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเฉลิมพร คนขับรถแท็กซี่มิเตอร์รายดังกล่าว ซึ่งเล่าว่า ตนเข้าไปรับแต่ช่วงนั้นฝนตก และตนไม่รู้ว่าลูกค้าคนไหน จากนั้นก็มีแท็กซี่คิวหน้าคาเฟ่เข้ามาถามตนว่ามารับหรือมาส่ง ตนบอกว่าเข้ามารับลูกค้า เขาพยายามที่จะเปิดประตูแล้วตนก็ลดกระจกลงและก็ปลดล็อค เพื่อที่จะให้เขาคุยจังหวะที่คุยกันอยู่ลูกค้ามาเปิดประตูรถแล้วเข้านั่งในรถ

“เขาบอกว่าตรงนี้รับไม่ได้ต้องไปรับตรงโน้น แต่จังหวะนั้นลูกค้าอยู่บนรถแล้ว เขาก็พยายามที่จะให้ลูกค้าลง แต่ลูกค้าไม่ยอมที่จะลงเพราะว่าตอนนั้นฝนตก”

นายเฉลิมพร เล่าต่อว่า ตนได้เจรจาว่าขอให้ไปเถอะเพราะลูกค้าขึ้นรถแล้วลูกค้าไม่ยอมลงตนจะไปส่งลูกค้า จากนั้นตนได้บอกว่ามีเบอร์สารวัตรอยู่ในกลุ่ม ลองโทรคุยกับสารวัตรว่าตกลงรับได้ไหม หรือขอให้สารวัตรมาช่วยไกล่เกลี่ย แต่ฝ่ายนั้นหาว่าตนนำชื่อสารวัตรมาแอบอ้าง ตนก็บอกว่าแค่มาช่วยเจรจา เขาก็ไม่ยอมให้การขยับรถ ไม่ยอมให้ไป

“ตอนนั้นประตูรถเปิดอยู่แล้ว หลังจากนั้นลูกค้าก็ลงจากรถ และเดินลงไปจังหวะที่ลูกค้าไป มีคนหนึ่งเหมือนปาทิชชู่หรืออะไรใส่ลูกค้าด้วย เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม” นายเฉลิมพร กล่าว

“จังหวะนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่แน่ใจว่าเป็นคู่สามีภรรยาหรือว่าเป็นเพื่อนกัน เขาถ่ายคลิปไว้อีกฝั่งหนึ่ง เขาน่าจะโดนก่อนหน้านั้นแล้ว และเขาน่าจะรอจังหวะว่าจะมีคนอื่นโดนเหมือนเขาหรือเปล่า เขาเลยถ่ายคลิปไว้แล้วเขาก็ขับตาม ก่อนที่เขาจะมาถ่ายคลิปเขาน่าจะโดนสั่งให้ยกเลิกเหมือนกัน เขาก็มาพูดกับเราว่าเรียกแอปฯแค่ 200บาท แต่คิวแท็กซี่ให้ไปในราคาที่กำหนดคือ 500 เขาก็เลยเรียกเพื่อนมารับ เขาขับตามเพื่อที่จะเช็คแล้วไปจอดเทียบแล้วบอกว่าเขาถ่ายวีดีโอไว้ ถ้าต้องการเดี๋ยวจะส่งคลิปวิดีโอให้”

นายเฉลิมพร เล่าต่อไปอีกว่า ในเรื่องของคดีประมาณ 23.00 น. ถึงเที่ยงคืน ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แค่ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพื่อป้องกันตัวเองไว้ เพราะที่นี่ข่าวไม่ธรรมดา เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะตนต้องทำมาหากินอยู่

“จากนั้นทางร้อยเวรโทรหาบอกพี่ไม่ได้แล้วนะ ตอนนี้เป็นข่าวตอนนี้เป็นคดีความแล้ว ต้องเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดแล้วส่วนทางตำรวจจะไปนำตัวผู้ต้องหามา แล้วให้เข้าไปทีหลังก็ได้เพราะอยู่ไกลหลัง จากนั้นเขานำตัวมาที่ สภ.กมลา ก็ได้เข้าไปตอนนั้น เขาอยู่กันหลายคนเขาก็ให้ตนเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตามที่ตนเล่ามา แต่ที่มาแจ้งความไม่ใช่จะเอาเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร แต่อยากให้รู้สึกปลอดภัย ถ้ามีอะไรกับตนว่าเป็นเรื่องนี้แน่นอน เพราะกันไม่ได้มีเรื่องอะไรกับใคร” นายเฉลิมพร กล่าว

นายเฉลิมพร เล่าทิ้งท้ายว่า ตนคุยกับทางร้อยเวรว่าเป็นข้อหาที่เบา ๆ เพราะไม่อยากให้เขาเดือดร้อน แต่อยากเตือนสติเขาให้คิดนิดหนึ่งในการกระทำของเขาครั้งต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่