ภูเก็ตฐานใหญ่เครือข่ายพนันออนไลน์ สมาชิก 1.4 ล้านคน เงินหมุนเวียนหลายร้อยล้าน

เว็บไซต์ตำรวจท่องเที่ยวเปิดเผยผลปฏิบัติการทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ www.siamoption.com ทายผลการขึ้นลงดัชนี Forex ตามแหล่งท่องเที่ยว ใน 3 จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ กรุงเทพฯ, ขอนแก่น และภูเก็ต ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวมีสมาชิกกว่า 1.4 ล้านราย และมีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท” รองผบช.ทท.ชี้เป็นขบวนการใหญ่ มีนายทุนเป็นชาวรัสเชีย สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ และภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วผ่านช่องทางจ.ภูเก็ต

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 16 สิงหาคม 2561, เวลา 17:48 น.

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ดร.สมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.ในฐานะรองผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์สยามออฟชั่นโดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 19 ราย เป็นระดับแกนนำ 9 ราย และพนักงานที่ทำหน้าที่ในการชักชวน 10 ราย พร้อมของกลางเงินสด 260,000 บาท สมุดบัญชีกว่า 10 เล่ม เงินหมุนเวียน กว่า 600 ล้านบาท อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 17 เครื่อง โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการโทรชักชวนประชาชนมาลงทุน 15 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจัดให้มีหรือเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ในบัญชี ข. โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พรบ.การพนัน พ.ศ.2478 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท และข้อหา “โดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน” อันเป็นความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนต่อดร.สมศักดิ์ ว่าถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ มากกว่า 70ชนิด ได้แก่ คู่สกุลเงิน, ดัชนี, หุ้น เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า ไบนารีออพชั่น(Binary Option) ผ่านทางเว็บไซต์ www.siamoption.com แต่เมื่อประชาชาชนสมัครสมาชิกและโอนเงินเข้าไปจริง ๆ แล้วกลับไม่สามารถเทรดหรือลงทุนตามที่ประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว แต่กลายเป็นการทายผลการขึ้นหรือลงของกราฟฟอร์เร็กซ์ (คู่สกุลเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) 8 อย่าง, ดัชนี้ เฉพาะ CryptoIndex และโลหะ ซึ่งไม่ใช่เป็นการลงทุนตามที่ประกาศแต่อย่างใดมีลักษณะเป็นการพนันออนไลน์

จึงได้ประสานข้อมูลผ่านศปอส.ตร ทำการสืบสวน บูรณาการร่วมกับ บช.ทท. บช.ภ.4 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารเข้าทลาย เครือข่ายพนันออนไลน์ดังกล่าวพร้อมกันในหลายพื้นที่ โดยขออนุมัติหมายศาลเข้าทาการตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุดใหญ่ในพื้นที่จ.กรุงเทพ ขอนแก่น และภูเก็ต

จุดแรกตรวจค้นบริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด ภายในอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ เขตสาทร จุดที่ 2 บริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด (ขอนแก่น) จับกุมน.ส.จีรภา แพงลืม อายุ 25ปี น.ส.ชญานันท์ ประเสริฐสังข์ อายุ 31 ปี น.ส.ณัฐมน จำรัสแนว อายุ 25 ปี น.ส.ไปรยา เพียผิว อายุ 43 ปี น.ส.สมฤทัย ปิยะพิสุทธ์ อายุ 26 ปี น.ส.อัญญาภรณ์ ธีรเสถียรพงศ์ อายุ 32 ปี นายโกศล เพียรหนูไทย อายุ 23 ปี นายณัฐพล กุโรรัตน์ อายุ 23 ปี นายวัฒนพัฒน์ วิชัยรัมย์ อายุ36 ปี และนายสุวิชชา หร่องบุตรศรี อายุ 24 ปี ขณะทำหน้าที่ชักชวนสมาชิกร่วมลงทุน

และจุดที่สาม ตรวจค้นบริษัทเฮลิกซ์ไทยบีช จำกัด (ภูเก็ต) เลขที่ 26/164 ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง จับกุมน.ส.รัตนาภรณ์ พันนอก อายุ30 ปี น.ส.ภัทระ นาดี อายุ 47 ปี นางภัคกร จินะกาศ อายุ 39 ปี น.ส. นิภาวรรณ ศรีน่ว อายุ 31 ปี นายนณัฐพงศ์ ศรีวรรณ อายุ 20 ปี นายฐานันดร ไทยใหม่ อายุ34 ปี (หัวหน้าขบวนการ) นายชลัมพุ์ ชูจิตต์ อายุ 44 ปี นายจิระพงศ์ มณีศรี อายุ41 ปี และน.ส.จิตตานันท์ เศรษฐพิตร อายุ 45 ปี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการใหญ่ มีนายทุนขบวนการใหญ่เป็นชาวรัสเชียซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วผ่านช่องทางที่จ.ภูเก็ต ซึ่งขบวนการนี้มีการตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ และภูเก็ต รวมทั้งที่ขอนแก่นถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งบริษัทเพื่อชักชวนเหยื่อในลักษณะโบร์กเกอร์ โดยอ้างความน่าเชื่อถือว่าบริษัทมีการจดทะเบียนถูกต้องผ่านกรมธุรกิจการค้าและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมเป็นสมาชิก 1.4 ล้านราย

ซึ่งในแต่ละเดือนมีผู้เล่นหมุนเวียนมากกว่า 1 แสนบัญชี ยอดเงินไม่ต่ากว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน รวมวงเงินหมุนเวียนต่อปีหลายร้อยล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ทำการตรวจยึดเงินได้กว่า 130 ล้านบาท และคาดว่ามีเงินหมุนกว่า 600 ล้านที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อนำเงินมาคืนประชาชน

"ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อการลงทุนลักษณะนี้ โดยเฉพาะการลงทุนที่อ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนมากกว่าร้อยละ 10 ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นความจริง ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง ฝากไปยังผู้ที่ยังดำเนินธุรกิจในลักษณะคล้ายกัน หากยังดำเนินธุรกิจอยู่ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจับกุมพร้อมขยายผลถึงนายทุน ตลอดจนใช้มาตราการยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีมากกว่า 5-6 เว็บไซต์" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่