ภูเก็ตท็อป 5 คดียาเสพติด กัญชาตกอันดับ กระท่อมแซงขึ้นแท่นรองแชมป์ ยาบ้าแชมป์ต่อเนื่อง

ภูเก็ต - ศาลจังหวัดภูเก็ตติด 5 อันดับ ศาลที่มีข้อหายาเสพติดมากที่สุดในประเทศ เป็นรองเพียงศาลจังหวัดทุ่งสง จากข้อมูลจำนวนข้อหายาเสพติดที่ขึ้นสู่ศาลชั้นต้นปี พ.ศ. 2562 (มกราคม – ตุลาคม) โดย ศูนย์ข้อมูลคดี สำนักงานแผนและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม

ข่าวภูเก็ต

วันเสาร์ ที่ 4 มกราคม 2563, เวลา 09:00 น.

เจ้าหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะที่บริเวณด่านตรวจภูเก็ต จุดผ่านเข้า-ออก หลักจังหวัดภูเก็ต ภาพ: ธัญลักษณ์ สากูต

เจ้าหน้าที่ตรวจค้นยานพาหนะที่บริเวณด่านตรวจภูเก็ต จุดผ่านเข้า-ออก หลักจังหวัดภูเก็ต ภาพ: ธัญลักษณ์ สากูต

ศูนย์ข้อมูลคดี เปิดเผยถึงข้อมูลจากการจำแนกยาเสพติดที่ขึ้นสู่ศาลชั้นต้น 3 อันดับสูงสุดในช่วง ม.ค. - ต.ค. 62 ก็คือ 1.เมทแอมเฟตามีน 2.พืชกระท่อม และ 3.กัญชา ตามลำดับ ซึ่งหากเทียบเป็นเปอร์เซ็นแล้ว เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าสามารถยึดพื้นที่กราฟที่ 78% ตามมาด้วย พืชกระท่อม 16% และกัญชา 5%

จากข้อมูลระยะ 10 ปี (2552 – 2562) จะเห็นได้ว่า ยาบ้าเป็นยาเสพติดที่มีการ กระทำผิดมากที่สุดตั้งแต่ปี 52 เป็นต้นมา ทั้งยังเป็นปัจจัยสำคัญของการเพิ่มหรือลดลงของจำนวนยาเสพติดทั้งหมดที่ขึ้นสู่ศาลชั้นต้น ส่วนชนิดของยาเสพติดที่มีการ

กระทำผิดรองลงมาคือ พืชกระท่อมและกัญชาตั้งแต่ปี 52 จนถึงปัจจุบัน จากข้อมูลในปีที่ผ่านมาพบว่า พืชกระท่อมได้เพิ่มจากอันดับ 3 ในปี 52 เป็นอันดับ 2 ในปี 62 ขณะที่กัญชาลดจากอันดับ 2 เป็น 3 ในปีปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลคดีจึงได้สันนิษฐานว่า ประเภทยาเสพติดที่ยื่นฟ้องต่อศาลมากที่สุดเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2562 และในปีถัดไปยังคงเป็น ยาบ้า พืชกระท่อม และกัญชา

 สำหรับข้อมูลปี 2562 (ม.ค. - ต.ค.) พบว่า จังหวัดที่มีข้อหายาบ้ามากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

1.กรุงเทพมหานคร 10,595 ข้อหา (จำนวนศาล 18 ศาล) 2.จังหวัดนครศรีธรรมราช 9,151 ข้อหา (6 ศาล) 3.จังหวัดอุบลราชธานี 8,784 ข้อหา (4 ศาล) 4.จังหวัดนครราชสีมา 8,718 ข้อหา (7 ศาล) และ 5.จังหวัดสงขลา 8,287 ข้อหา (4 ศาล)

ในส่วนของศาลที่มีข้อหายาบ้ามากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.ศาลจังหวัดสงขลา 5,579 ข้อหา 2.ศาลจังหวัดอุบลราชธานี 5,577 ข้อหา 3.ศาลจังหวัดนคราชสีมา 5,263 ข้อหา 4.ศาลจังหวัดลำปาง 4,870 ข้อหา และ 5.ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ 4,788 ข้อหา

จังหวัดที่มีข้อหาพืชกระท่อมมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.จังหวัดนครศรีธรรมราช 6,391 ข้อหา 2.สุราษฎร์ธานี 6,161 ข้อหา 3.จังหวัดภูเก็ต 4,701 ข้อหา 4.จังหวัดสงขลา 4,446 ข้อหา และ 5.กรุงเทพมหานคร 3,169 ข้อหา โดยศาลที่มีข้อหาพืชกระท่อมมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.ศาลจังหวัดทุ่งสง 2,545 ข้อหา 2. ศาลจังหวัดภูเก็ต 2,526 ข้อหา 3.ศาลแขวงสมุทรปราการ 2,475 ข้อหา 4.ศาลแขวงภูเก็ต 2,158 ข้อหา และ 5.ศาลจังหวัดเวียงสระ 1,974 ข้อหา

ข้อมูลของจังหวัดที่มีข้อหากัญชามากที่สุด 5 อันดับในประเทศไทยจังหวัดภูเก็ตติดอันดับ 4 ของตารางด้วยจำนวนข้อหารวม 714 ข้อหา เป็นรองกรุงเทพมหานครที่มี 1,007 ข้อหา, นครราชสีมา 823 ข้อหา, สุราษฎร์ธานี 784 ข้อหา ตามลำดับ และจังหวัดอุบลราชธานีรั้งท้ายตารางอยู่ที่ 563 ข้อหา

ศาลที่มีข้อหากัญชามากที่สุด 5 อันดับได้แก่ 1.ศาลจังหวัดภูเก็ต 702 ข้อหา 2.ศาลจังหวัดสมุทรปราการ 483 ข้อหา  3.ศาลจังหวัดอุบลราชธานี 445 ข้อหา 4.ศาลจังหวัดสีคิ้ว (ปากช่อง) 348 ข้อหา และ 5.ศาลจังหวัดนครราชสีมา 328  ข้อหา

ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวจะพบว่า ยาบ้าและกัญชามีการกระทำผิดอย่างกระจายตัวไปทั่วประเทศ ในขณะที่พืชกระท่อมมีการกระทำผิดกระจุกตัวในพื้นที่ภาคใต้เป็นส่วนมาก 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจในส่วนของจำนวนข้อหาในแต่ละพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศาลภาค 8 ซึ่งรับผิดชอบเขตจังหวัดภูเก็ต ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ พัทลุง และนครศรีธรรมราช มีจำนวนข้อหายาเสพติดที่ขึ้นสู่ศาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากอันดับ 5 ในปี 2551 เป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา

ในเรื่องนี้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดจังหวัดภูเก็ต(โต๊ะข่าวยาเสพติด) เปิดเผยกับ The Phuket News ว่า “จากข้อมูลที่ปรากฏ แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญและกวดขันอย่างเข้มงวดทั้งในด้านของการสืบสวนหาข่าว และการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดี เพื่อลดการเผยแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่” 

“ปีนี้เราได้เพิ่มความเข้มข้นการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด ที่จะลักลอบนำเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตไปที่กลุ่มเรือประมง เพราะในปัจจุบันพบว่ามีการลักลอบยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ผ่านทางเรือประมงกันมากขึ้น” นายสุพจน์ กล่าว

ทางด้านตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เปิดเผยข้อมูลผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2562 โดยเปรียบเทียบผลการจับกุมตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ทุกข้อหา สรุปว่าปีงบ 62 จับกุมทั้งหมด 7,562 คดี เพิ่มขึ้นจากปีงบ 61 จำนวน 466 คดี

ส่วนพื้นที่ 5 อันดับแรกที่มีการจับกุมผู้ต้องหามากที่สุดในปีงบ 62 คือ สภ.เมืองภูเก็ต จำนวน 1,552 คดี รองลงมาคือพื้นที่ สภ.ฉลอง 1,058 คดี, สภ.ถลาง 977 คดี, สภ.ป่าตอง 969 คดี และสภ.ท่าฉัตรไชย 676 คดี

เปรียบเทียบปริมาณของกลางระหว่างสองปีงบประมาณ ปี 62 จับกุมยาบ้า 556,383 แสนเม็ด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 61 จากจำนวน 303,161 เม็ด, ยาไอซ์ ปี 62 จับได้ 19.297 กก. เพิ่มขึ้นจากปี 61 จำนวน 0.841 กก., พืชกระท่อมจับกุม 3,734.857 กก., 34,058 ใบ 1,149.955 ลิตร ปี 61 จับได้ 2,900.265 กก., 25,390 ใบ, 6 ต้น และ 883.487 มล. ทั้งนี้ของกลางเฮโรอีนปี 62 จำนวน 116.87 กรัม ลดลงจากปี 61 ที่มีปริมาณของกลาง 292.419 กรัม 

“ปัญหายาเสพติดของจังหวัดภูเก็ตยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยหลักของปัญหาเกิดจากชุมชนที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามเราหวังว่าปัญหายาเสพติดจะลดน้อยลง เพราะเราได้ให้ความสำคัญกับชุมชนเป็นหลัก” นายสุพจน์ กล่าว

รอง ผวจ.ภูเก็ต กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ที่ถูกจับกุมตัวเป็นคนจากจังหวัดอื่น เนื่องจากภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและประชากรที่มาจากต่างจังหวัดเข้ามาพำนักเป็นจำนวนมาก จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้จำนวนคดีของจังหวัดภูเก็ตติดอยู่ในอันดับต้น ๆ กอปรกับปัญหาเศรษฐกิจ ที่ทำให้หลายคนพร้อมที่จะเสี่ยง ด้วยการเป็นผู้ขายรายย่อย ไม่เหมือนกับในจังหวัดอื่น ๆ ที่มีพ่อค้าแม่ค้ารายใหญ่ 

โดยผู้ค้าจะมีการส่งเสริมการขายด้วยข้อเสนอมากมาย รวมไปถึงการลดราคายาเสพติด และในปัจจุบันยังพบว่าวัยรุ่นผู้หญิงหลายรายที่เป็นผู้ต้องหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ถูกจับพร้อมกับแฟนหนุ่ม นายสุพจน์ อธิบาย 

อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้ประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการสืบสวนหาข่าว และดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อกำจัดยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการกวดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2563 มาอย่างเข้มข้น และจะดำเนินการต่อไปอีกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นยานพาหนะต้องสงสัยทุกประเภท เน้นหนักในระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 62 – 31 ม.ค. 63

“เป้าหมายของเราคือการกวาดล้างเครือข่ายการค้ายาเสพติดให้หมดไป เริ่มตั้งแต่ผู้ผลิต จนถึงผู้ค้ารายใหญ่ ต่อไปจนถึงผู้ค้ารายย่อยที่ส่งยาเสพติดริมถนน รวมถึงเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนการค้ายาเสพติดด้วย” พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ กล่าว 

“นอกจากนี้ทางเราจะจัดให้มีโครงการเพื่อให้ความรู้แก่เด็ก เยาวชนในเรื่องพิษภัยของยาเสพติด เพื่อเป็นการลดและป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในโรงเรียนและชุมชน เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด”

 รายงานเพิ่มเติม: ธัญลักษณ์ สากูต

 

 

 

 



 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่