ภูเก็ตบูรณาการขจัดคราบน้ำมันคลื่นซัดเกลื่อนแนวชายหาด ฮ.ขึ้นบินตรวจสอบกว่า 80 กม.

ภูเก็ต - หน่วยงานในจังหวัดภูเก็ตบูรณาการขจัดคราบน้ำมัน ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกลื่อนตลอดแนวชายหาดในยางหาดไม้ขาว หาดในทอนและหาดลายัน คาดว่า 3-7 วันจะทราบว่าเป็นน้ำมันชนิดใด ต้องรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการ

เอกภพ ทองทับ

วันเสาร์ ที่ 5 สิงหาคม 2566, เวลา 15:48 น.

วันนี้ (5 ส.ค.) ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นาวาเอก กฤษณ์ เคลือบมาศ รองผอ.ศรชล จังหวัดภูเก็ต นายสรศักดิ์ รณะนันทน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ นายอดูลย์ ระลึกมูล เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 15 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ตำรวจน้ำภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ทัพเรือภาคที่ 3 อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว ระดมกำลังกว่า 100 นาย ร่วมกันดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันและเศษขยะที่เปื้อนคราบน้ำมัน ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกลื่อนตลอดแนวชายหาดในยาง หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดลายัน

และในวันนี้ทัพเรือภาคที่ 3 ได้นำเฮลิคอปเตอร์บินตรวจตลอดแนวชายฝั่งตามหน้าหาดต่าง ๆ ประกอบด้วย หาดไม้ขาว หาดในยาง หาดในทอน หาดป่าตอง จนไปถึงจังหวัดพังงา ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร 

นาวาเอกกฤษณ์ เคลือบมาศ รอง ผอ.ศรชล ภูเก็ต กล่าวถึงขจัดคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกลื่อนตลอดแนวชายหาด ว่า วันนี้ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 4 ส่วน ดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันในบริเวณหาดในยาง หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดลายัน ร่วมกันดำเนินการเก็บกวาดคราบน้ำมันและเศษขยะที่เปื้อนคราบน้ำมันดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผลจากคราบน้ำมันมีพื้นที่ได้รับผลกระทบได้แก่ ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงายาวมาจนถึงจังหวัดภูเก็ต ในพื้นที่อำเภอถลาง และต่อเนื่องไปถึงชายหาดป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวเจอเป็นลักษณะก้อนแผ่นคราบสีดำ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสเพราะหากไปสัมผัสถูกจะล้างออกได้ยาก ในส่วนของข้อมูลขณะนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่า น้ำมันดังกล่าวเป็นน้ำมันดีเซลหรือน้ำมันเครื่องซึ่งทั้ง 2 ชนิดจะมีเวลาเซ็ตตัว 3 ถึง 7 วัน หลังจากนี้จะมอบหมายให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตดำเนินการไปตรวจสอบระบบภาพย้อนหลัง 7 วัน ในระบบ VTS เพื่อดูข้อมูลว่า มีเรือขนาดใหญ่ลำใดเดินเรือผ่านในบริเวณที่มีการคราบน้ำมัน โดยหากพบเรือลำใดมีการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

ทางด้าน นายภูเบศ จอมพล นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้จะเก็บตัวอย่างน้ำมันเพื่อเข้าห้องแล็บทำการวิจัยเพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3 ถึง 7 วัน จะทราบผลว่าเป็นน้ำมันชนิดใด ในส่วนของดำเนินคดีตามกฎหมาย ในกรณีที่เรือมีการปล่อยสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุน้ำมันในทะเลจะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยมาตรา 119 ทวิ การทิ้งสิ่งปฏิกูลในน่านน้ำซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะต้องมีการชดเชยในส่วนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย




 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่