นายภัคพงศ์ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 จนถึงปัจจุบัน ประกอบกับการคาดการณ์ของ กรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) พบว่าช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2562 ปริมาณฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยกว่าค่าปกติ และในบางพื้นที่จะมีสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง ซึ่งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการให้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ทั้งยังมีข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ให้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2562 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่าให้เกิดเงื่อนไขในการสร้างความขัดแย้ง จากกรณีการขาดแคลนน้ำเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
โดยให้จังหวัดดำเนินการในระยะเร่งด่วนใน 3 เรื่องคือ ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับการติดตามสภาวะอากาศ และการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด, สำรวจและจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจน หากพบว่าจุดใดเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหาร จัดการ ผลิต และแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชน และภาชนะเก็บกักน้ำประจำหมู่บ้าน และ ให้จังหวัดรายงานสถานการณ์ และผลการปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้กระทรวงมหาดไทย ผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ประมวลและวางแผนของรัฐบาลเชิงนโยบายต่อไป
“ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต พบว่าประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงทำให้อ่างเก็บน้ำหลัก คือ อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำบางวาด และอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ มีปริมาณน้ำลดลงเป็นอย่างมาก จังหวัดภูเก็ตจึงมีการเตรียมแผนในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยการประชุม เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมแผนงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ” นายภัคพงศ์ กล่าว
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต