จึงได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตดำเนินการสอบสวนโรคและตรวจหาเชื้อ พบว่ามีกลุ่มเจ้าหน้าที่สัมผัสเสี่ยงสูง 12 ราย และกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 18 ราย จึงมีคำสั่งกักตัวเองเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 30 นาย ให้ปฏิบัติการตามมาตรการ Self-Quarantine และ Work from Home ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำให้ปฏิบัติงานตามปกติ ตามมาตรการ DMHTTA ของจังหวัดภูเก็ต
นายสนอง วานิช อายุ 37 ปี พนักงานร้านครัว แม่บุ๋ม ตลาดยักษ์ใหญ่ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมานี่เองว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ถูกกักตัวจำนวนหลายนาย เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ โควิด-19 ตามปกติคนทั่วไปที่จะมากินข้าวที่นี่ปกติและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าจะมากินข้าวส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัว กินเสร็จแล้วก็ออกไป ทุกคนป้องกันตัวเองดูแลตัวเองโดยสวมหน้ากากอนามัย และถ้าตนเห็นลูกค้าที่เดินเข้ามาไม่สวมแมสก์ ตนก็จะไปบอกและจะเอาแมสก์ของทางร้านไปให้
“โควิดช่วงที่ผ่านมากับปัจจุบันนี้แตกต่างกัน เพราะในปัจจุบันนี้ติดกันได้ง่ายและเร็วมาก อยากบอกให้ทุกคนดูแลตัวเองกันด้วยโดยสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัยของทุกคน เพราะโควิดรอบนี้น่ากลัวมาก และกระจายตัวได้เร็วกว่าที่ผ่านมา” นายสนอง กล่าว
นางกรรณิกา เหมประพันธุ์ อายุ 46 ปี เจ้าของตลาดยักษ์ใหญ่ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเที่ยง ว่าตำรวจ สภ.ฉลองถูกกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 และรอผลยืนยัน
“รู้สึกสงสารและเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนมาก และถ้าสถานีตำรวจไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแล้ว หากเกิดเหตุเภทภัยขึ้น และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชาวบ้านจะทำอย่างไร” เธอกล่าว พร้อมทั้งให้กำลังใจทุกคนขอให้ผ่านไปให้ได้และดูลตัวเองให้ดีที่สุด
ด้านพลตำรวจตรี ภรศักดิ์ นวนหนู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เนื่องจากมีผู้มาแจ้งความและทราบภายหลังว่าได้ไปตรวจเชื้อโควิด-19 และพบมีผลเป็นบวก จึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ที่ปฏิบัติหน้าที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ต้องเข้ากักตัวเพื่อรอผลตรวจจำนวน 14 วัน
ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลองติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด และในระหว่างนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อให้บริการกับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ขออย่าได้กังวลใจ