ผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาต ให้กลับบ้าน 210 ราย (กลับบ้านเพิ่ม 2 ราย) เสียชีวิต 3 ราย (ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม) จำหน่าย 1 ราย กำลังรักษาพยาบาลอยู่ 12 ราย ทุกรายอาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 6,766 ราย (รายใหม่ 26 ราย) โดยยังคงรักษาพยาบาล 26 ราย (เป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน 12 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 14 ราย) กลับบ้านแล้ว 6,740 ราย จำนวนผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อทางห้องปฎิบัติการทั้งหมด 10,801 ราย (พบเชื้อ 226 ราย) เป็นผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 6,766 ราย (พบเชื้อ 188 ราย) และ เป็นผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุก 4,035 ราย (พบเชื้อ 38 ราย)
เมื่อเร็ว ๆ นี้ จังหวัดภูเก็ตได้มีการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยให้เปิดกิจการเพิ่มเติมในส่วนของศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ภายใต้มาตรการการรักษาความปลอดภัยในระยะห่าง สามารถเปิดให้บริการในเวลา 10.00 - 20.00 น. และกำหนดให้มีการจำกัดคนเข้าใช้บริการตามอัตราส่วนของพื้นที่ 1 คน ต่อ 5 ตร.ม. ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องช้อปปิ้งแบบนิวนอร์มอลคือโหลดแอปพลิเคชันก่อนเข้าห้าง หรือลงทะเบียนผู้ใช้บริการ เพื่อจะเป็นข้อมูลการเข้า-การออกในการใช้บริการ หากมีการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น ๆ จะได้ติดตามตัวในการควบคุมโรคได้ทันท่วงที
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการผ่อนปรนเปิดกิจการ ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม ร้านอาหารริมทาง/ รถเข็น/หาบเร่/ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อ โดยกำหนดให้ในบริเวณพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหาร หาบเร่และแผงลอยในตลาด ต้องมีพื้นที่จำหน่ายอาหารไม่เกิน 200 ตร.ม. และต้องมีการระบายอากาศเพียงพอ พร้อมทั้งงดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกันที่ไม่สามารถทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนได้ เช่น อุปกรณ์คีบจับอาหาร และเปิดให้บริการเฉพาะสั่งทาน ไม่รวมบุฟเฟ่ต์ หรือถือภาชนะตักอาหารเองและงดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในสถานที่จำหน่ายอาหาร
ในเรื่องนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) ฝากไปถึงประชาชนที่ไปใช้บริการทุกท่านให้ยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ยืนห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ไม่ให้สัมผัสอาหารสดโดยตรง หากชำระเงินด้วยเงินสดต้องไม่สัมผัสมือกับผู้ค้าโดยตรง และต้องมีการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยครั้ง
รวมทั้งห้ามนำบุตร-หลานมาเดินตลาดโดยเด็ดขาด หรืออาจชำระแบบไม่ใช้เงินสดผ่านชิ่งทางออนไลน์ต่าง ๆ สิ่งสำคัญควรตรวจสอบความหนาแน่นของผู้ใช้บริการในพื้นที่ห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ได้ที่เว็บไซต์ ไทยชนะ.com ก่อนออกเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวของกลุ่มคนที่จะทำให้เกิดการระบาดของโรคโควิดระลอก 2 ได้ และหากพบว่ามีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น หายใจเร็ว หายใจเหนื่อยหายใจลำบาก เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มีไข้หรือไม่มีไข้ก็ตาม ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ได้ทันที
ช่วงเย็นของวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการผ่อนปรนการให้บริการศูนย์การค้า ฯลฯ (ซึ่งจนถึงวันนี้ก็นับระยะเวลา 1 สัปดาห์แล้ว) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้นำคณะกรรมการโรคติดต่อฯออกตรวจเยี่ยมศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เพื่อความมั่นใจหลังรัฐบาลผ่อนปรนระยะที่ 2 ย้ำคุมเข้มมาตรการ “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ปลอดภัยสูงสุด
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า ทางจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการฯ เข้าตรวจสอบมาตรฐานการปฏิบัติของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต พบว่ามีการเตรียมการพอสมควร ทั้งฝั่งฟลอเรสต้าและฝั่งเฟสติวัล ได้ดำเนินการตามมาตรฐานของการควบคุมโรคตามกรอบที่วางไว้ ซึ่งถือว่าทำได้อย่างดีมาก
“นอกจากนี้ จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ยังตกค้างอยู่เกือบ 5 พันคน และยังมีชาวต่างประเทศที่พักอาศัยในจังหวัดภูเก็ตร่วม 1 หมื่นคน ในส่วนนี้อาจต้องเพิ่มมาตรการสื่อสารภาษาอังกฤษทำความเข้าใจกับชาวต่างชาติที่อยู่ในภูเก็ต ขอความร่วมมือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19” นายภัคพงศ์ กล่าว
และในวันแรกของการกลับมาเปิดดำเนินการ นางสาววิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสฯ ภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ต และพันธมิตรร้านค้า ต่างก็เตรียมความพร้อมในการคุมเข้มมาตรการ และแนวทางการปฏิบัติตามแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” และมีการจำลองสถานการณ์ซ้อมใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอลในร้านค้าต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวเปิดให้บริการได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ ทั้งบริษัทและพันธมิตรผู้เช่าร้านค้า ต่างไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาทั้งมาตรการและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มมาตรการพ่นฆ่าเชื้อในระบบปรับอากาศหลังศูนย์ฯปิดให้บริการทุกวัน เพื่อให้อากาศภายในศูนย์ฯสะอาด ปลอดภัยยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการติดตามความหนาแน่นของจำนวนคนเข้าศูนย์ฯ ผ่านแอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” พร้อมเตรียมเปิดตัวฟังค์ชั่นใหม่ใน Line @centralLife ให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าใช้บริการในศูนย์ฯ และจะมีการแทร็คระยะเวลาที่ลูกค้าอยู่ในศูนย์ ไม่ให้เกิน 2 ชม.พร้อมทั้งแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดเวลา พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ลูกค้าปฏิบัติตามแนวทางมาตรการความสะอาดปลอดภัยของศูนย์ เว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตนเอง
