เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. 68 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้า ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองผู้ว่าจังหวัดภูเก็ต นำส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติจัดการประชุมเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และชี้แจงแนวทางการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2568 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เป็นประธานการประชุม ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบนโยบายและข้อสั่งการ การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และชี้แจงแนวทางการฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2568 ให้บุคลากรในหน่วยงานภาครัฐได้รับความรู้ ความเข้าใจ และสามารถดำเนินงานตามแนวทาง ได้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ได้มีการชี้แจงติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็น การติดตามสถานการณ์และการคาดการณ์แนวโน้ม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา /กรมควบคุมมลพิษและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) รวมถึงการติดตามผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/ กรมการปกครอง/กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น/ กรมโยธาธิการและผังเมือง /จังหวัดเชียงใหม่/ จังหวัดเชียงราย/จังหวัดแม่ฮ่องสอน/จังหวัดตากและจังหวัดน่าน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ประสานจังหวัดปฏิบัติตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัดและยกระดับมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อย่างเร่งด่วนและลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ดังนี้
- ให้ยกระดับการดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางการเกษตร ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้มงวด กวดขัน และบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม • ใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ โดยมอบหมายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ตลอดจนประชาชนจิตอาสา ให้ร่วมกันสอดส่อง ป้องปราม ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ
- กรณีพบการเผาในพื้นที่ให้ดำเนินการยับยั้งการเผาในทันทีและบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายในการห้ามเผาอย่างเด็ดขาด
- ให้ยกระดับมาตรการลดผลกระทบต่อประชาชน โดยให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ออกหน่วยให้บริการประชาชน จัดหาอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) ห้องปลอดฝุ่น คลินิกมลพิษ ไว้บริการประชาชนอย่างเพียงพอและเหมาะสม
- ให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อปฏิบัติที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาหรือศูนย์เด็กเล็ก ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ให้ดำเนินการตามข้อปฏิบัติดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก
